การทำแอดโฆษณาที่ดี หลายครั้งความสนใจของโพสต์ไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาซะทีเดียว แต่อยู่ที่ภาพประกอบที่สะดุดใจคนจนต้องหยุดดู แต่ว่าถ้าภาพที่เราใช้ไม่มีอะไรดึงดูด ผู้คนก็คงต้องเลื่อนผ่านไป กลายเป็นโพสต์ที่ไร้ความหมายไปซะเฉยๆ
การทำ Art Work ไม่ได้แค่ใช้ในแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น แต่รวมถึงภาพสื่อนิ่ง Print Ad หรือแม้แต่สื่อนอกบ้านแบบ Out of home บิลบอร์ด แบนเนอร์ สติ๊กเกอร์ต่างๆ เช่นเดียวกับสื่อบนรถเมล์ รถไฟฟ้า ที่ต้องการความโดดเด่น สะกดสายตาเมื่อผู้คนผ่านมองเห็น
.
การสร้างภาพให้สวยงาม มีหลายขั้นตอนตั้งแต่การถ่ายภาพ ไปจนถึงการเซ็ตฉาก และการแต่งรูปภาพด้วยโปรแกรม วันนี้นินจาการตลาดจะบอกแนวทาง 9 ไอเดียในการผลิตภาพโฆษณาดังนี้ครับ
1. ใช้ Negative Space
.
หลายคนคงรู้จักคำว่าน้อยแต่มาก การปล่อยให้มีพื้นที่ว่างรอบๆ องค์ประกอบหลัก ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดี ยิ่งทำให้ภาพที่ออกมาสื่อสารได้ชัดเจน นอกจากจะสะดุดตาแล้ว ภาพที่ออกมายังดูสวยและสะกดคนดู
หลายแบรนด์ใหญ่ องค์กรใหญ่ๆ เลือกที่จะใช้วิธีนี้สร้างออกแบบโลโก้ ยกตัวอย่างภาพโปสเตอร์หนังเรื่อง The Dark Knight Rises ปี 2012 ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ใช้ Negative Space ที่ทำให้เกิดความยิ่งใหญ่ของภาพได้อย่างมาก
2. ใช้จิตวิทยาของสี
.
สีสันมีผลกับจิตวิทยาของคนเรา ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเท่านั้น แต่ยังผลต่อมุมมองความคิดด้วย รวมทั้งด้านอารมณ์ และสีแต่ละสีก็กระตุ้นความรู้สึกบางอย่าง ดังนั้นสีจึงมีความสำคัญกับการทำการตลาด
มีการศึกษาว่าสีส่งผลกับพฤติกรรมการซื้อ อย่างงานวิจัยมหาวิทยาลัย Loyola ระบุว่า สีสามารถเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์ได้มากถึง 80% ลองนึกถึงเวลาเราเดินเข้าร้านค้าเพื่อซื้อโค้กสักกระป๋อง เรามักจะมองหาโลโก้โค้ก หรือกระป๋องสีแดงใช่ไหมครับ
ส่วนน้องหมาไม่ต้องน้อยใจไป เพราะพวกเขาก็สามารถเพิ่มยอดวิวให้ช่องได้มากขึ้น 547.6% ซึ่งก็ยังเป็นตัวเลขที่สูงมากอยู่ดีครับ แม้จะไม่ถึงขั้น To the moon แบบแมวก็ตามที
3. ใช้เทคนิคการจัดแสง
.
แสงก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สร้างความโดดเด่นสะดุดตาให้กับธุรกิจหรือหน้าร้านของเรา หรือแม้แต่การจัดอีเว้นท์ต่างๆ การใช้ไฟฉายแสงไปยังส่วนต่างๆ ในสิ่งที่เราอยากให้คนอื่นเห็น จะทำให้ผู้ชมเกิดสมาธิ
การจัดแสงเป็นการสร้างอารมณ์ สร้างบรรยากาศที่เราจะสื่อออกไป เช่น บริษัททัวร์ทำโฆษณาวันหยุดในหน้าร้อน ก็จะใช้แสงที่มีสีสันสดใส ทำให้เราตื่นเต้นและกระตุ้นความรู้สึกผจญภัย แต่พอเป็นวันหยุดหน้าหนาว ก็จะใช้แสงไฟที่อบอุ่นแทน
4. ใช้การวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์
.
การวางตำแหน่งนำเสนอภาพโฆษณา ต้องคำนึงถึงความสมบูรณ์แบบ ต้องรู้ว่าผู้ชมอยู่ตรงไหน และภาพของเราจะดึงดูดความสนใจไปที่ใด คล้ายเกมหมากรุกที่เราต้องเดาการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของอีกฝั่ง
เปรียบเทียบกับหน้าร้านค้าออนไลน์ก็เหมือนกับการวางตำแหน่งภาพสินค้า และตำแหน่งตระกร้า ที่จะต้องปรากฎในจุดที่คนที่เข้าชมเว็บไซต์มองเห็นได้มากที่สุด
ตัวอย่างที่เข้าใจได้ง่ายๆ ก็อย่างป้ายผับที่ต้องติดอยู่บนผนังด้านบนเสมอ เพื่อดึงดูดสายตาให้ลูกค้าที่เดินผ่านมา สนใจอยากจะเข้าไปนั่งดื่มฟังเพลง
5. ใช้ธีมตามฤดูกาล
.
มีหลายแบรนด์ใช้วิธีนี้ในเทศกาลวันสำคัญเช่น วันคริสต์มาส วันวาเลนไทน์ อย่างร้านกาแฟ Starbucks มีการใช้ภาชนะธีมลวดลายพิเศษในช่วงวันหยุดพิเศษแทบจะทุกปี
การใช้ธีมซีซั่น คือการนำเสนอว่าแบรนด์ต้องการมีส่วนร่วมในวันหยุดนี้และร่วมเฉลิมฉลอง เป็นโอกาสดีที่จะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (Niche Audience) และสร้างการรับรู้โดยไม่แบ่งแยกในวันสำคัญ
6. ใช้องค์ประกอบโลโก้แบรนด์
.
เคยไหมครับ โฆษณาบางตัวเราเห็นแว้บเดียวแล้วรู้เลยว่าสินค้าแบรนด์ไหน โดยที่ยังไม่ทันเห็นโลโก้ด้วยซ้ำไป บางทีเราอาจจะเห็นแค่เศษเสี้ยวของโลโก้ สีที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ หรือแม้แต่ฟ้อนต์ตัวอักษรที่ใช้
ตัวอย่างแบรนด์ที่ทำให้นึกถึงหลักการนี้เช่น McDonald’s กับโลโก้ตัว M สีเหลืองทรงโค้งที่เป็น Golden Arches ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1962 รวมถึงโลโก้ Nike ที่โด่งดังและใช้งานมายาวนานตั้งแต่ปี 1971
7. ใช้หลักออกแบบ Minimal
.
หลักการดีไซน์แบบ Minimal 10 ปีที่ผ่านมา ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดนั่นคือแบรนด์ Apple ที่แสดงให้เห็นว่าโลโก้ที่เรียบง่ายก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้ แนวคิดคือให้องค์ประกอบดูสะอาดตา เรียบง่าย ใช้คำพูดไม่เยอะในการสื่อสาร
ลองตัดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็น และโฟกัสไปที่ส่วนที่สำคัญจริงๆ เช่น ภาพสวยๆ สโลแกนที่เจาะจง คำพูดไม่กี่คำบอกคุณประโยชน์ หรือจุดขายที่ไม่เหมือนใคร เท่านี้เราก็ได้ภาพโฆษณา Mininal แล้วครับ