รวบรวมข้อมูลเด่น ๆ ไว้ให้แล้วนะครับ กับครั้งแรกและครั้งใหญ่ในอีเวนต์การตลาดของ TikTok ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับอีเวนต์สุดสำคัญ TikTok The Stage
ภายในงานก็มีการจัดสัมมนาและนิทรรศการเสมือนจริงที่สามารถโต้ตอบได้ พร้อมกับการให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างเครือข่าย การวัดผลทางการตลาด การทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งและยั่งยืน บนแพลตฟอร์ม TikTok ใครที่ยังไม่ได้ดู หรือว่าดูแล้วแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ต้องกังวลเลยครับ เพราะวันนี้ นินจาการตลาดจะมา #สรุปให้ในโพสต์เดียว #แชร์เก็บไว้ #แชร์ส่งต่อให้เพื่อนด้วยนะ
1. ในตอนนี้ TikTok ไม่ใช่แพลตฟอร์มสำหรับกลุ่มคน Gen Z เพียงเท่านั้น แล้วนะครับ เพราะในตอนนี้มันเข้าได้ถึงทุกกลุ่มอายุเลย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือคุณพ่อแม่ที่อยู่บ้านเฉย ๆ ก็สามารถเข้ามาร่วมสร้างสรรค์ความบันเทิงได้หมด หรือจะเป็นการขาย การรีวิว ต่าง ๆ นา ๆ ก็ย่อยได้
2. ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ แบรนด์ต่าง ๆ ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม อย่าง E-commerce, CPG, Finance, Education, Fashion, F&B ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งใน TikTok ได้เข้ามาร่วมงานกันเพื่อจุดประกายไอเดียแห่งความสรรค์ให้ทะลุขีดจำกัด นี่ยังไม่รวมแบรด์ระดับโลกอย่าง Colgate, L’Oreal และ Samsung ที่ต่างก็เข้ามามีส่วนร่วมกับ TikTok ทั้งสิ้น
3. TikTok เติบโตอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เหล่าผู้ใช้งานก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เนื้อหาต่าง ๆ ใน TikTok ทำให้พวกเขามีความสุข ผู้ใช้ 7 ใน 10 คน เข้าชม TikTok เพื่อต้องการทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น และมากกว่า 800 ล้านวิดีโอถูกสร้างขึ้นล้วนมาจากคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ 35 % ของผู้ใช้งานหันมาใช้เวลากับ TikTok มากขึ้น
4. 41% ของคน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เห็นด้วยว่า โฆษณาที่ดึงดูดที่สุด คือ โฆษณาแห่งความบันเทิง และอีกหนึ่งสิ่งที่ TikTok พยายามที่จะทำมันออกมาให้ดีที่สุดนั่นคือ ความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจและแสดงออกได้อย่างเต็มที่ ตัวอย่างความปลอดภัยที่บอกก็จะประมาณว่า จะมีการรายงานถึงความโปร่งใสในทุกไตรมาส และลักษณะการใช้งานที่ดูเป็นมิตรเหมือนครอบครัว
5. การรักษาระยะห่างและการกักตัวอยู่บ้าน ทำให้ผู้คนหันมาสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอมากมาย อย่างในเวียดนามผู้คนกว่า 59% หันมาใช้อินเทอร์เน็ตและสร้างสรรค์วิดีโอมากขึ้น และสำหรับประเทศไทยเอง 63% ชอบที่จะช้อปออนไลน์ แถมยังสำรองเงินไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ
6. ความสนุกที่ผู้ใช้งานต่างรู้สึกเมื่อเล่น TikTok คือ ตัวจุดประกายโอกาสแห่งการเติบโตทั้ง 4 อย่าง
7. โอกาสที่สอง คือ Engage high quality diverse audiences การเชื่อมต่อผู้ชมที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง TikTok ได้มอบเครื่องมือการตัดต่อวิดีโอที่ค่อนข้างใช้งานง่าย และผู้ใช้งานกว่า 80% สร้างคอนเทนต์เอง สำหรับหมวดหมู่คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น คือ การศึกษา อาหาร และเกมส์
8. โอกาสที่สาม Create immersive entertainment experiences การส้รางปรากฎการณ์ความบันเทิงที่สมจริง และนี่ถือเป็นครั้งที่สองแล้วที่ TikTok ได้รับการรับรองจาก Kantar ว่า เป็นสุดยอดผู้นำระดับโลกด้านโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ แล้ว โฆษณาของ TikTok ให้ความบันเทิงมากกว่า 74% สนุกกว่า 70% และน่าจดจำกว่า 65%
9. โอกาสที่สี่ Convert happy users into happy customer เปลี่ยนผู้ใช้ให้เป็นลูกค้า (แบบมีความความสุขด้วยนะ) การผสานรวมของคอนเทนต์การค้าบน TikTok และจากปรากฎการณ์ #TikTokMadeMeBuyIt ที่มียอดวิวเกือบห้าพันล้านวิวได้ช่วยแบรนด์และสินค้าดังไปทั่ว ขายหมดสต็อกภายในพริบตา ผู้ใช้หลายรายเปลี่ยนเป็น E-commerce เพื่อความบันเทิง และเพื่อส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกว่าต้องการซื้อสินค้าที่ให้ความรู้สึกดี ๆ กลับไปด้วย
10. จากข้อมูลของธนาคารโลก ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีคนใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 37 ล้านคนในช่วงปีแรกของการระบาดของโรคไวรัส ผู้คนต้องมาเริ่มต้นทำงานที่บ้าน เรียนที่บ้าน และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผู้คนใช้เวลาไปกับโลกออนไลน์ถึง 1 ใน 3 ของวัน เพื่อความผ่อนคลายและทำให้ชีวิตมีสีสัน จากการสำรวจพบว่า ผู้ใช้งานเข้า TikTok เฉลี่ยถึง 11 ครั้งต่อวัน
11. ธรรมชาติของคนเรานั้นก็ต้องการที่เสาะหาความสุขใส่ตัว ทางแบรนด์ต่าง ๆ ก็ควรใช้อารมณ์อันทรงพลังนี้เชื่อมต่อกับลูกค้าของคุณ เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจของคุรเติบโตไปได้เร็ว มี 3 ขั้นที่ควรจะต้องทำ สิ่งแรก การทำตนแบบ Flawsome เพราะบางทีลุกค้าอาจจะเบ่อคอนเทนต์ที่คัดสรรปั้นแต่งมามากเกินไป ลูกค้าอยากให้แบรนด์โชว์ส่วนที่เปราะบางและไม่สมบูรณ์แบบออกมาอย่างมั่นใจ ประมาณเหมือนเบื้องหลังการถ่ายทำ เอาเรื่องจริงมาทำให้มันตลก
12. สิ่งที่สอง Democratise creativity การสร้างสรรค์แบบเท่าเทียม ไม่ว่าใครที่มีสมาร์มโฟน ก็สามารถสร้างวิดีโอ คอนเทนต์ และโฆษณาชั้นเยี่ยมได้ ไม่มีอุปสรรคในการเข้าถึงอีกต่อไป
สิ่งที่สาม Embrace Shoppertainment ในตอนนี้ผู้คนต่างช้อปออนไลน์กันมากขึ้น และเราก็ได้เห็นถึงการผสานกันของอีคอมเมิร์ซกับคอนเทนต์ ซึ่งมันเรียกว่า Shoppertainment คือแนวคิดที่แบรนด์ให้ความบันเทิงลูกค้าขณะโฆษณาสินค้าตัวเองไปด้วย
13. แล้วด้วยความมุ่งมั่นของ TIkTok ที่จะเข้ามาจัดการดูแลในเรื่องความปลอดภัย มีรายงานจากงานบังคับแนวทางการปฏิบัติในชุมชนล่าสุด ได้ออกมาเปิดเผยว่าในไตรมาสแรกของปี 2564 เกือบ 62 ล้านวิดีโอถูกลบออกจาก TIkTok ทั่วโลก เพราะว่าเนื้อหาเหล่านั้นเป็นการละเมิดเงื่อนไขและการให้บริการของ TIkTok ฟังดูเหมือนจะเยอะนะครับ แต่มันเป็นเพียงแค่ 1% ของวิดีโอทั้งหมดที่ดาวน์โหลดบน TIkTok เท่านั้น
14. และยิ่งไปกว่านั้นคือ 81% ของวิดีโอที่ละเมิด ถูกพบและถูกลบออกก่อนที่จะถูกรับชม และ 91% ของวิดีโอนี้ถูกลบออกก่อนจะมีการมาแจ้งทาง TIkTok ซึ่งตัวเลขเหล่านี้มันแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยในแพลตฟอร์มของ TIkTok
15. การวัดผลของ TikTok นั้นมีอยู่ 3 องค์ประกอบ อย่างแรกเลยนะครับคือ ประสิทธิภาพของสื่อ ความปลอดภัย อย่างที่สอง คือ การรับรู้ของผู้ใช้หรือโครงสร้างหน่วยความจำจากโฆษณาที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม และอย่างสุดท้ายนะครับคือ ประสิทธิภาพการขาย ซึ่งวัดจากพฤติกรรมผู้ใช้จริงที่จะนำไปสู่การประเมินด้านมูลค่า ต้องทดสอบและวัดผลทั้ง 3 สิ่งนี้ไปพร้อม ๆ กัน
16. การเข้าถึงเพียงอย่างเดียวนั้นมันไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะความเกี่ยวข้องทางด้านตัวแปรใหม่สำหรับแบรนด์ TikTok ได้ให้ Nielsen ทำการวิจัยที่กำหนดรูปแบบเฉพาะเพื่อความถูกต้องของแพลตฟอร์มโฆษณาดิจิทัล แล้วปรากฎว่า วิดีโอที่เป็นรูปแบบโฆษณา ผู้คนชื่นชอบมากกว่าข้อความหรือแบบ GIF และอีก 41% เห็นด้วยว่าพวกเขามักจะมีส่วนร่วมด้วยมากว่ากับวิดีโอโฆษณาเพื่อความบันเทิง นอกจากนี้โฆษณาที่ป๊อปอัปขึ้นมาแล้วให้เรากดข้ามนั้นเป็นรูปแบบโฆษณาที่ไม่ชอบมากที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือ 45% มักจะแนะนำแบรนด์ที่มีโฆษณาเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหามากกว่าที่แบรนด์ที่ทำโฆษณาเป็นโฆษณาล้วน ๆ
17. ในรายงานล่าสุดของ AppsFlyer อ้างถึง งานวิจัยที่ได้รับมอบหมายจาก TikTok รายงานว่ามีผู้ใช้เพียง 14% เท่านั้นที่คลิกลิงก์หลังจากเห็นโฆษณาบน TikTok ตัวเลขของแพลตฟอร์มอื่น ๆ นั้นสูงมากกว่า แบบสำรวจที่มอบหมายจาก TikTok โดย NielsenIQ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงให้ว่าผู้ชมกว่า 1.5 เท่า มีแนวโน้มจะซื้อสิ้นค้ามากขึ้นหลังจากเห็นโฆษณาบน TikTok
18. จากรายงาน AppFlyer พบว่า ระยะเวลาแสดงผลที่เหมาะที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์และการบริการทางการเงินสูงสุดอยู่ที่ 1.4 วัน ตามด้วยการศึกษา 1.3 วัน แต่ทางกลับกันเกมส์กลับไปอยุ่เป็นอันดับสุดท้ายด้วยเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
19. TikTok มอบหมายให้ Nielsen ดำเนินการทดลองโมเดลการตลาดแบบผสมใน 15 แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภค ทั่วประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย นี่เป็นการศึกษาครั้งแรกของธุรกิจโฆษณาบน TikTok ผลลัพธ์ออกมาว่า โฆษณาบน TikTok มีผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นบวก เงินทุกบาทที่แบรนด์ใช้บน TikTok จะนำไปสู่ผลตอบแทนที่มากขึ้น TikTok ได้ผลตอบแทนมากขึ้น 1.6 เท่ามากกว่าแพลตฟอร์มสื่ออื่น ๆ (สื่อโทรทัศน์ สื่อสิงพิมพ์) ยกเว้น Google และ Facebook
ทั้งหมดในวันนี้นะครับก็ถือเป็นการเปิดตัวโซลูชั่นใหม่เพื่อการสร้างสรรค์ การสร้างแบรนด์ และการค้า การวัดผลต่าง ๆ เพื่อที่จะช่วยใหแบรนด์และเอเจนซี่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นพร้อมสร้างความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจไปในตัว
.
ผมหวังว่า โพสต์สรุปของผมในครั้งนี้ จะมีประโยชน์ต่อใครหลาย ๆ คนนะครับ ถ้าใครชอบเนื้อหา คอนเทนต์ประมาณนี้ ก็อย่าลืมคอมเมนต์บอกผมด้วยนะครับ จะได้ทำออกมาให้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง