นินจาการตลาดได้มีโอกาสเข้าร่วมในอีเวนต์สำคัญของ TikTok ในงาน TikTok World ที่ได้ออกมาประกาศโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ TikTok สร้างขึ้น และกำลังสร้างขึ้นมาให้พวกเราได้รู้ เพื่อให้ผลลัพธ์การใช้งาน TikTok ดีมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่ใช้ TikTok ในการโฆษณาสินค้าและบริการ
ใครไม่ได้ดู แล้วกลัวไม่รู้เรื่องนี้ ก็ไม่ต้องกังวลไป วันนี้นินจาการตลาด จะมา #สรุปให้ในโพสต์เดียว
#แชร์เก็บไว้ #แชร์ส่งต่อให้เพื่อนด้วยนะ
1. 2022 โฆษณาบน TikTok จะเปลี่ยนไป
ปีหน้า TikTok จะเปิดตัวนวัตกรรมแรกของอุตสาหกรรมในปี 2022 โซลูชั่นแห่งการโฆษณาตัวใหม่ ที่ผสมผสานมีเดียเนื้อหาที่มีแบรนด์ของครีเอเตอร์และการมีส่วนร่วมของผู้ใช้
แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ต้องรอติดตามเอาไว้นะครับ ว่าเขาจะออกมาประกาศเปิดตัววันไหน
2. Vimeo Create แพลตฟอร์มที่กำลังเป็นที่เติบเติบโตอย่างรวดเร็ว ล่าสุดในตอนนี้ได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ TikTok แล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า การสร้างวิดีโอนั้นอาจยากและซับซ้อน และมีต้นทุนที่สูงเกินไป หรืออาจต้องใช้เวลาที่มากเกินควร เลยได้สร้างเทมเพลตที่ใช้งานง่าย ๆ ขึ้นมา ซึ่งได้ปรับแต่งให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม TikTok และพร้อมที่จะมาช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กทั่ว ๆ ไปสามารถสร้างวิดีโอระดับมืออาชีพได้ โดยไม่ต้องอาศัยประสบการณ์อะไรมากมายเลย และสำหรับทุกธุรกิจที่ผ่านมาที่เคยใช้ Vimeo Create สามารถเห็นค่า CTR เพิ่มขึ้นกว่า 50% เลยทีเดียว ในขณะที่ต้นทุน CPM จะลดลงกว่า 80% ซึ่งตรงนี้แหละครับ ที่มันจะทำให้คุณสามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากกว่าเดิม และแน่นนอนครับว่ามันดีต่อธุรกิจของคุณแน่นอน
3. Creative Formats รวมเครื่องมือใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับแบรนด์ที่คุณรักง่ายขึ้น มาเริ่มที่ Instant Page หน้าแลนดิงเพจที่จะโหลดภายในไม่กี่วินาทีซึ่งมันเร็วกว่าโมบายเพจทั่วไป ถึง 11 เท่าเลยทีเดียว มันช่วยลดเวลาลงไปได้มากเลยล่ะครับ ซึ่งในหน้าแลนดิงเพจเหล่านี้ ผู้ใช้งานสามารถเจาะลึกลงไปในข้อความจากแบรนด์ได้เลย ด้วยการดูวิดีโอหรือเลื่อนผ่านไปยังเนื้อหาต่าง ๆ โดยไม่ต้องออกจากแอปพลิเคชั่นเลย และนอกจากนั้นนะครับ ทาง TikTok เองยังได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงความต้องการของผู้ใช้ TikTok เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกับเนื้อหาที่ง่ายขึ้นอีกด้วย
4. Tiktok เปิดตัว Reach and Frequency เป็นวัตถุประสงค์การซื้อโฆษณารูปแบบใหม่ที่จะมอบประโยชน์ต่าง ๆ ให้คุณได้อย่างแม่นยำ เมื่อเริ่มใช้ Reach and Frequency ผู้ที่โฆษณาสามารถเลือกที่จะพุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้งานได้เลย โดยผ่าน Extended reach หรืออาจจะได้ Impressions มากขึ้นด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่เท่าเดิม โดยการเลือกความถี่ที่สูงขึ้น สำหรับ ตำแหน่งโฆษณา (Ads Placement) ของพวกเขา และตัว Reach and Frequency จะช่วยให้แบรนด์สามารถประเมิน CPM ล่วงหน้าได้ มันจึงทำให้สามารถวางแผนล่วงหน้าได้ ทำให้การเตรียมทุกอย่างนั้นมันดีขึ้น นอกจากนี้นะครับ Reach and Frequency ยังจัดเตรียมรายงานแคมเปญที่มีความก้าวหน้าเอาไว้ในแพลตฟอร์ม TikTok Ad Manager ด้วย นั่นก็หมายความว่าแบรนด์ต่าง ๆ สามารถตรวจสอบวิธีการทำงานของแอดได้ทั้งหมด มีตัวเลขถึง 82 % ของผู้บริหารด้านการตลาดที่ตอบแบบสอบถามของ Nieisen เอาไว้ว่า Reach and Frequency เป็นวิธีที่ดีมากในทางการตลาดและในแพลตฟอร์มดิจิทัล
5. Brand Lift Study ถูกสร้างขึ้นจากประสบการณ์ของ TikTok ซึ่งเป็นเครื่องช่วยในการสำรวจ และช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อให้สามารถตอบสนองพาร์ตเนอร์ได้ดีกว่าเดิม และนอกจากนี้ Brand Lift Study ยังให้โอกาสผู้ที่โฆษณา ให้สามารถปรับแคมเปญของพวกเขาได้ใน TikTok อีกด้วย แถม Brand Lift Study ยังได้รับการยืนยันจาก Kantar และ Nielsen ดังนั้นมั่นใจได้เลยครับว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากพอ และน่าเชื่อถือ
6. TikTok Inventory Filter เป็นฟิลเตอร์ที่จะมาช่วยเรื่องความปลอดภัยสำหรับแบรนด์ที่จะมาลงโฆษณาใน TikTok โดยโซลูชั่นนี้นะครับ ถูกสร้างขึ้นมาบนเทคโนโลยีการเรียนรู้ของ AI ซึ่งแบ่งออกเป็นวิดีโอ ข้อความ เสียง และอื่น ๆ วิธีนี้จะช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ แน่ใจและมั่นใจได้เลยว่าชื่อเสียงของแบรนด์พวกเขาจะไม่เสียหายอย่างแน่นอน และยังมั่นใจได้อีกว่ามันจะตอบสนองความคาดหวังของอุตสาหกรรมในวงกว้างระดับโลกได้ และในตอนนี้ทาง TikTok ได้จัดวางฟิลเตอร์ตัวนี้เอาไว้ใน Inventory เรียบร้อยแล้ว ด้วย GARM (Global Alliance for Responsible Media) พันธมิตรอุตสาหกรรมระดับโลกที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยทางดิจิทัลและกำจัดเนื้อหาออนไลน์ที่เป็นอันตราย
7. #TikTokMadeMeBuyIt เป็นแฮชแท็กที่ผู้คนใน TikTok หันมาใช้กันมากที่สุด เพื่อการรีวิว ซึ่งผู้คนก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมกันอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้มีมากกว่า 4.6 พันล้านวิวแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนี่ก็พิสูจน์ได้เลยว่า TikTok เข้าสู่การตลาดดิจทัลอย่างเต็มตัวแล้ว ความสำเรร็จของ TikTok made me buy it เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า TikTok กำลังไปได้สวย และมีอิทธิพลมากในการสั่งซื้อ เมื่อเทียบกับ Social Media อื่น ๆ ผู้ใช้ TiKTok มีโอกาสที่จะสั่งซื้อมากกว่า 1.7 เท่า เมื่อเล่นแล้วมาเจอสินค้า และบทพิสูจน์นี้ทำให้เกิดชุดโซโลชั่นใหม่อย่าง TikTok Shopping
8. Collection Ads รูปแบบแอดตัวนี้มันจะทำให้แบรนด์ต่าง ๆ มีปุ่มที่สามารถกดแล้ววิ่งไปยังคอลเล็กชั่นสินค้าของแบรนด์ได้ โดยสามารถรวมเอาการ์ดผลิตภัณฑ์เอาไว้ในวิดีโอแบบ InFeed ของพวกเขาได้ และแต่ละการ์ดใน Collection Ads สามารถเพิ่มคุณสมบัติที่แสดงแตกต่างกันออกไปได้ด้วย แถมมันยังช่วยเพิ่มการชมเพจผลิตภัณฑ์โดยรวมมากกว่า 50 % เลยทีเดียว
9. Dynamic Showcase Ads รูปแบบแอดตัวนี้นะครับ จะช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถโปรโมตสินค้านับพันหลายรายการได้ รวมทั้งวิดีโอเจาะลึกถึงบุคคล โดย แอดรูปแบบนี้ จะสร้างวิดีโอแอดที่พูดเกี่ยวกับความสนใจของผู้ชม โดยพิจารณาจากที่สิ่งที่พวกเขาเคยทำ เช่นการเพิ่มสินค้าเข้ารถเข็น หรือการเปิดดูสินค้าชิ้นนี้ และในกรณีตัวอย่างของแบรนด์ JD.ID ที่ใช้ตัว Dynamic Showcase Ads แล้วก็ได้ผลลัพธ์เกินคาด พวกเขาเห็นการติดตั้งดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นบนมือถือเพิ่มขึ้นกว่า 12 เท่าตัว และ ในขณะที่ CTR ก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับเวลาปกติ
10. เรื่องนี้ใครนึกไม่ออก ให้นึกถึงตอนที่เราเข้าไปดูสินค้าใน Marketplace ต่าง ๆ เช่น Lazada แล้วเจอโฆษณาสินค้าตัวที่เราเคยดูมาก่อน แต่ยังไม่ได้ซื้อ มันตามมาหลอกหลอนเราในรูปแบบโฆษณาใน Social Media ต่าง ๆ ซึ่ง TikTok ก็สามรถทำแบบนั้นได้เช่นกัน
11. Lead Genneration วิธีที่จะทำให้ผู้โฆษณาเติบโต และ Convert ลูกค้าของพวกเขา โดยตัวนี้มันจะอยู่ในวิดีโอโฆษณาแบบ InFeed ซึ่งมันง่ายสำหรับผู้ใช้อยู่แล้วในการกรอกแบบฟอร์มและให้ข้อมูลของพวกเขากับแบรนด์ต่าง ๆ ด้วยวิธีที่ปลอดภัย นี่ถือว่าเป็นประโยชน์มากสำหรับธุรกิจที่ไม่สามารถปิดการขายบนออนไลน์ได้ เช่นพวก รถยนต์ หรือ การศึกษา
12. ผู้ใช้งานมากกว่า 90% ใน TikTok บอกว่าเสียงเป็นสิ่งสำคัญต่อการรับชมวิดีโอบน TikTok และกว่า 69% บอกว่า พวกเขาเข้ามาที่ TikTok เพื่อความสนุกสนาน และจากการศึกษาโดยกลุ่มการประยุกต์ใช้แบรนด์ด้วยวิทยาศาสตร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รายงานว่า การเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์และสร้างความตระหนักรู้ในแบรนด์มีอัตราที่สูงมากขึ้นมากกว่า 8 เท่า
13. หลังจากที่ผู้คนได้ถูกสั่งให้กักตัวอยู่แต่ในบ้าน เพราะมีการระบาดของไวรัส ผู้คนก็ต่างสร้างสรรค์วิดีโอในแบบตัวเองออกมาแก้เบื่อ จากการอยู่บ้านเฉย ๆ ส่งผลให้หลังจากนั้น TikTok มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีผู้เข้าใช้งานเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในปีนี้ ในขณะที่การแข่งขันก็เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 11 เลยทีเดียว
14. และความลับขั้นสุดของ TikTok ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน มาเปิดที่นี่เป็นที่แรก นั่นก็คือ TikTok เป็นผู้สร้างประสบการณ์ด้านเสียงเป็นเจ้าแรกมาโดยตลอด แพลตฟอร์มของ TikTok คือการสร้างการเชื่อมต่อ และสร้างชุมชนผ่านเสียง ซึ่งมันช่วยส่งต่อข้อมูลสร้างการตอบสนองทางอารมณ์ และให้ความสำคัญกับเนื้อหาต่าง ๆ นั่นแหละครับที่ทำให้ผู้คนมากมายสนใจและใช้เวลาบนหน้าจอเป็นวัน ๆ เลย เพราะในตอนนี้ TikTok นั้นกลายเป็นแหล่งเพื่อการค้นพบเพลงใหม่ ๆ รวมถึ’ศิลปินและกระแสเต้นอีกมากมาย ดูท่าแล้วไม่มีท่าทีที่จะแผ่วลงเลย ซึ่งนั้นหมายถึงการจะใช้ TikTok ให้ประสบความสำเร็จ การสร้างสรรค์ด้านเสียงเป็นเรื่องที่ธุรกิจต้องใช้งานให้เป็น
15. จำนวนผู้ใช้งานใน TikTok ร้อยละ 50 บอกว่าเพลงทำให้เนื้อหาต่าง ๆ นั้นน่าสนใจมากขึ้นทำให้มีชีวิตชีวา แล้วก็อีกร้อยละ 77 ของผู้สร้างคอนเทนต์ใน TikTok ใช้เพลงเพื่อประกอบในวิดีโอของพวกเขา และกว่าร้อยละ 80 ของผู้ชมมีการส่งต่อศิลปินหน้าใหม่ที่เขาได้ดูบน TikTok เพราะเสียงเพลงนั้นดึงดูด TikTok นั้นยังมีเครื่องอีกมาก ที่รอเปิดรับเหล่าผู้สร้างเนื้อหาและแบรนด์ใหม่ ๆ ในการสร้างอนาคตให้กับเสียงให้เติบโตไปพร้อม ๆ กับ TikTok
ทั้งหมดนี่ถือเป็นการรวมเหล่าฟีเจอร์และเทคนิคเด็ด ๆ ที่เอาไว้สร้างสรรค์วิดีโอบน TikTok ในงาน “TikTok World” ซึ่งช่วยสร้างโอกาสในการเติบโตและต่อยอดธุรกิจของคุณ ที่หาไม่ได้จากที่ไหนแล้ว ถ้าหากใครชอบเนื้อหาแบบนี้ ก็อย่าลืมคอมเมนต์บอกผมหน่อยนะครับ ผมจะได้ทำเนื้อหาแบบนี้ออกมาให้ได้ติดตามกันต่อไป
.
ยังไม่หมดแค่นี้นะครับ ยังมีบทสรุปจากงานในแคมเปญเดียวกันของ TikTok กับ “TikTok The Stage”ครั้งแรกและครั้งใหญ่ที่สุดของอีเวนต์การตลาดของ TikTok ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมนินจาการตลาดได้มีโอกาสเข้าร่วมในอีเวนต์สุดสำคัญอย่าง “TikTok The Stage” นี้ด้วย
.
งานนี้… ใครที่ยังไม่ได้ดู หรือว่าดูแล้วแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ต้องกังวลเลยครับ เพราะเดี๋ยวนินจาการตลาด จะมา #สรุปให้ในโพสต์เดียว ในสัปดาห์หน้า คอมเมนต์ไว้ ถ้าไม่อยากพลาดนะครับ