ตั้งแต่ที่เฟซบุ๊กเริ่มก้าวเข้าสู่โลกเสมือนอย่าง Metaverse และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta โลกก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!!
แบรนด์หรือองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจกับเทรนด์นี้เป็นอย่างมาก รวมไปถึงในประเทศไทยเองด้วย เรียกได้ว่า ตอนนี้มีหลาย ๆ แบรนด์พยายามที่พาตัวเองเข้าไปสู่ยังโลกเสมือนให้ได้ แต่จะมีแบรนด์อะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลยครับ
ใครอยากชมเป็นคลิปก็กดชมได้เลยครับ ส่วนใครอยากอ่านเป็นแบบบทความ เลื่อนลงไปอ่านด้านล่างได้เลยเช่นกันครับ
มากันที่แบรนด์แรก Nike แบรนด์รองเท้าชื่อดังที่พึ่งจะยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไปถึง 7 รายการด้วยกัน มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้าต่าง ๆ นา ๆ ที่พร้อมจะเข้าไปขายให้คุณในโลกเสมือน คงจะเป็นฟีลที่ได้ใส่รองเท้า Nike อวดกันในร่างอวตาร
นอกจากนี้ ทาง Nike ยังได้มีการยื่นจดสิทธิบัตรของ Cryptokicks ซึ่ง Nike วางแผนที่จะใช้เป็น NFT (Non-Fungible Token) เพื่อยืนยันความถูกต้องและความเป็นเจ้าของในการครอบครองรองเท้า
.
จะเห็นได้เลยครับว่าที่ผ่านมา Nike เป็นบริษัทที่ปรับตัวเข้ากับโลกที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ตามเทรนด์ ตามยุคสมัยอยู่ตลอด เรียกได้ว่าฆ่าได้ ตกเทรนด์ไม่ได้
มาต่อกันที่ Microsoft ยักษ์ใหญ่ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนำของสหรัฐฯ แบรนด์นี่ก็ใช่ย่อย ยอมใครที่ไหน ที่ในตอนนี้ได้เปิดทางให้ผู้ใช้งานสามารถผสานเชื่อมโยงระบบเครือข่ายการสื่อสารภายในองค์กรอย่าง Workplace ของ Meta ให้เข้ากับซอฟต์แวร์ของ Microsoft อย่าง Microsoft Teams
.
โดยการทำแบบนี้จะช่วยให้ผู้ที่ใช้งานทั้งสองแพลตฟอร์มนั้นไม่ต้องมาคอยสลับไปมา ซึ่งทาง Microsoft เองก็กำลังพัฒนาให้สามารถใช้ Workplace ใน Teams ด้วยเช่นกัน
.
ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Teams นั้นสามารถเข้าถึงการใช้งาน Workplace ผ่านแอปพลิเคชันที่ฝังมาใน Teams ได้เลยทันที
.
พร้อมกับจะใช้ตัวอวตารประชุมกันแบบ 3 มิติไปเลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้แว่น VR ด้วยซ้ำ โดยจะใช้ AI เป็นตัวเลียนแบบการเคลื่อนไหว แล้วเอาไปปรากฎบนหน้าจอแทน
.
ตัวต่อมา ตัวนี้หนุ่ม ๆ สาว ๆ มีร้อง
Tinder แอปพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดังที่มีแผนเตรียม นัดเดตบนโลกเสมือน ที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน โดยคร่าว ๆ อาจเป็นการพบปะผ่านตัว Avatar ของกันและกันในสถานที่เสมือนจริง เช่นเจอกันที่ร้านอาหาร ที่บาร์
.
จากนั้นก็เปิดให้โอกาสพูดคุยกันผ่านเสียงจริง ๆ เลย พร้อมแสดงความสนใจซึ่งกันและกันในโลกเสมือนจริง หากเริ่มถูกใจกันแล้วละก็….ก็สามารถเลือกเชื่อมต่อแบบส่วนตัว ไปนัดคุยกันต่อได้เลย
.
พร้อมกับวางแผนที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มรองรับ Virtual Economy ผ่านการผลักดันให้ใช้ Tinder Coins ใช้จ่ายในแอปฯ :ซึ่งในตอนนี้มีบางประเทศแถบยุโรปได้เริ่มทดลองใช้กันไปบ้างแล้ว
ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง AIS ก็ขอร่วมด้วย
โดยครั้งนี้ทาง AIS ดึง Metaverse Human คนแรกของไทยอย่าง ไอรีน มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้
.
แถมจับมือร่วมกันกับ Google และ MRT ให้แสกนบัตรโดยสารผ่าน Google Lean พอแสกนก็จะเห็นทั้งแผนที่แบบ immersive พร้อมเข้าถึงสิทธิพิเศษจาก AIS มากมาย
The Voice รายการประกวดร้องเพลงชื่อดังที่เราทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี กำลังจะกระโดดจากรายการโทรทัศน์ เข้าสู่โลก Metaverse
.
โดยทางบริษัท ITV Studio เจ้าของรายการ The Voice ประกาศว่าจะเข้าสู่โลก Metaverse โดยใช้รายการ The Voice เป็นตัวนำร่อง
.
ทั้งนี้ทางบริษัท ITV Studio จะร่วมมือกับ Avakin Life วิดีโอเกมแบบ 3D ที่จำลองการใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงด้วย Avatar และยังร่วมมือกับแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอย่าง TikTok อีกด้วย
.
โดยรูปแบบเกมที่ออกมาแทบจะเหมือนกับรายการ The Voice เลยครับ ที่ผู้ใช้งานสามารถเป็นนักร้องได้ เป็นกรรมการได้ หรือจะเลือกเป็นผู้ชมก็ได้ตามที่เราต้องการเลยครับ
.
.
เรื่องของแบรนด์ที่ยกตัวอย่างก็มีคร่าว ๆ ประมาณนี้เลยครับ แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกต่อไปคือ คนอื่นเขาพยายามจะพาแบรนด์เข้าโลก Metaverse กัน แต่ที่นี่ไม่ใช่แค่แบรนด์ แต่จะเอาเมืองทั้งเมืองเข้าโลก Metaverse ไปเลย
.
ที่นั่นก็คือ โซล หรือ ประเทศเกาหลีใต้นั่นเองครับ โดยครั้งนี้รัฐบาลเกาหลีทุ่มงบกว่า 3.9 พันล้านวอนหรือราว ๆ 120 ล้านบาท
โดย ‘เมตาเวิร์สโซล’ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘วิสัยทัศน์โซล 2030’ (Seoul Vision 2030) ภายใต้แนวคิด future emotional city
.
สงสัยไหมครับว่า เมืองเมตาเวิร์สแห่งแรกของโลก จะเป็นเมืองโลกเสมือนได้ยังไง?
.
โปรเจกต์ ‘เมตาเวิร์สโซล’ เนี่ยนะครับ รัฐบาลกรุงโซลจะนำสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ของรัฐบาลท้องถิ่นสร้างขึ้นมาเป็น ‘ที่ประจำการเมืองโซลแบบเสมือนจริง’ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่
.
โดยประชาชนจะได้เจอเจ้าหน้าที่บริการของรัฐผ่านอวตารในโลกเสมือนหลังการสวมแว่นตาวีอาร์ (VR) และเมื่อสร้างเสร็จ 100% ในโลกเสมือนนี้จะมีพื้นที่ให้บริการภาคธุรกิจ ศูนย์บ่มเพาะฟินเทค และองค์กรการลงทุนภาครัฐด้วย
.
โดยรัฐบาลกรุงโซล กำหนดจะเริ่มนำร่อง ‘เมตาเวิร์สโซล’ ในช่วงปลายปีนี้ และตั้งเป้าจะสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลายปี 2022 ก่อนจะเปิดตัวแพลตฟอร์มในช่วงต้นปี 2023 เริ่มจากการเปิด ‘’Metaverse 120 Center’ หรือศูนย์ให้บริการสาธารณะแห่งโลกเมตาเวิร์ส และเริ่มดำเนินการเต็มรูปแบบในปี 2026
.
แล้วคุณรู้ไหมครับว่าทำไมโซลถึงอยากเป็นเมือง Metaverse แรกของโลก??
.
แผนการสร้าง ‘เมตาเวิร์สโซล’ นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ 10 ปีของ ‘โอเซฮุน’ นายกเทศมนตรีกรุงโซลที่มี ‘เป้าหมาย’ เพื่อ “ช่วยขยับฐานะทางสังคมในหมู่ประชากรและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันระดับโลกของเมือง”
.
เช่นเดียวกัน ‘เมตาเวิร์สโซล’ ที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนข้อตกลงดิจิทัลใหม่ของเกาหลีใต้ (Korean Digital New Deal) หรือแผนที่ต้องการนำเครื่องมือดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI)ในการพัฒนาระบบสาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐานส่วนกลาง และฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19
.
ที่ผ่านมา เกาหลีใต้ยังพยายามใช้เทคโนโลยีและฐานข้อมูลในการสร้าง ‘เมืองอัจฉริยะ’ สำหรับให้บริการประชาชนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นใช้เอไอในการตรวจสอบท่อระบายน้ำและศูนย์บำบัดน้ำเสีย ไม่เว้นแม้แต่เรื่องโควิด-19 ที่จะมีเอไอคอยให้คำตอบเกี่ยวกับมาตราการการป้องกันและการดูแล
.
ซึ่งก่อนหน้านี้โซลก็ได้เปิดตัวแผนในการใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในระบบบริการสาธารณะ สามารถตรวจสอบและเก็บฐานข้อมูลทั่วเมืองในเรื่องของการจราจร
.
ความปลอดภัยสาธารณะ และตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อม และเมตาเวิร์สดูเหมือนจะเป็นขั้นต่อไปของวิวัฒนาการด้านเมืองอัจฉริยะ
.
ความพยายามของโซลในครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ได้จะชูเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่ต้องการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในเมืองเป็นหลัก
.
เพื่อที่จะทำให้พลเมืองก้าวข้ามขีดจำกัด สามารถออกไปใช้ศักยภาพที่รัฐบาลสนับสนุนให้เต็มที่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกที่จะส่งผลต่อเสรษฐกิจในอนาคต
.
หลาย ๆ คนคงคิดว่า มันดูเกินจริงไป มันคงยากมากกว่าจะทำได้ ถ้าคุณลองมองย้อนไปถึงความสำเร็จที่ผ่านมาของโซล คุณจะพูดเลยว่า มันเป็นไปได้นะ สำหรับโซล