Google เผยการทำงานเบื้องหลังนั้นสำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นใด
เพราะต้องมุ่งมั่นและให้ความสำคัญอย่างมากกับการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ว่าเชื่อถือได้ เพื่อประโยชน์ต่อผู้ใช้งานที่มีมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน
รวมถึงคอยดูแล คัดกรอง ป้องกันเนื้อหาให้ถูกต้องและแม่นยำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะในทุก ๆ วันมีคนโพสต์ คนรีวิวนับล้านคน จึงต้องคอยดูแล คัดกรองข้อมูลการรีวิวอยู่ตลอดเวลา
.
เพราะเมื่อผู้ใช้ต้องการค้นหาสถานที่แห่งใหม่รีวิว จะเป็นแหล่งข้อมูลที่นำไปสู่สถานที่และธุรกิจต่างๆ ได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด
.
โดยการดูแล ป้องกัน และคัดกรองที่ประสบความเร็จ นั้นมาจากสิ่งเหล่านี้
1.Google มีข้อกำหนดและนโยบายเกี่ยวกับการรีวิวที่ชัดเจน
.
เนื่องจากวัน ๆ นึงมีผู้คนทั่วโลกโพสต์รีวิวกันเป็นจำนวนมาก Google จึงมีระบบสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงที่คอยจัดระเบียบข้อมูลบนกูเกิลแผนที่ ให้ถูกต้องแม่นยำ และตรงประเด็นอยู่เสมอ
.
วิธีที่ Google ใช้กำหนดและบังคับใช้นโยบายในช่วงที่ผ่านมา ก็คือ มีการกำหนดนโยบายด้านเนื้อหาที่เคร่งครัดขึ้นเพื่อให้รีวิวนั้นอยู่บนฐานของความจริง ที่คนโพสต์นั้นได้ไปเจอมาจริง ๆ และปราศจากการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่เหมาะสมใน Google Business Profile
.
นอกจากนี้ นโยบายและการป้องกันของกูเกิลยังได้รับการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน สามารถปกป้องสถานที่และธุรกิจต่าง ๆ จากเนื้อหาที่ละเมิดหรือไม่เกี่ยวข้องได้ในกรณีที่เป็นไปได้ว่าสถานที่เหล่านี้จะตกเป็นเป้าหมายของการละเมิด
2. กลั่นกรองด้วย “แมชชีนเลิร์นนิง”
.
โดยในการทำงาน เมื่อมีผู้โพสต์รีวิว Google จะส่งรีวิวนั้นไปยังระบบกลั่นกรองเพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามนโยบายไหม? ซึ่งก็อาจเปรียบได้ว่าระบบเป็นเหมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คอยคัดกรองผู้ต้องสงสัยก่อนเข้าอาคาร ต่างกันเพียงแต่ทีมงานจะคัดกรองเนื้อหาที่ไม่ดีไม่ให้โพสต์ลงบน Google เท่านั้นเองครับ
.
เมื่อดูจากปริมาณรีวิวที่ทาง Google ได้รับเป็นประจำนั้น เห็นได้เลยว่าต้องอาศัยทั้งความเข้าใจที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์ และความสามารถในการจัดการปริมาณรีวิวจำนวนมากของแมชชีนมาช่วยกลั่นกรองเนื้อหาที่ส่งเข้ามา ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ล้วนแล้วแต่มีข้อดีต่างกัน
.
แมชชีนเป็นเหมือนเครื่องป้องกันด่านแรก เพราะมันสามารถตรวจจับรูปแบบได้ดี รูปแบบเช่นนี้จะทำให้แมชชีนระบุได้ทันทีว่าเนื้อหาเป็นไปตามเกณฑ์หรือไม่? และเนื้อหาที่ไม่เป็นจริงและหลอกลวงส่วนใหญ่จึงถูกลบก่อนที่จะมีใครไปเห็น
.
แล้วแมชชีนของกูเกิลมันพิจารณาจากอะไรละ? ถึงรู้ว่าอันนี้ได้ อันนี้ไม่ได้
.
ก็พิจารณาจากหลายอย่างด้วยกันนะครับ เช่น
- เนื้อหาของรีวิวว่ามันเหมาะสมไหม? หรือมันเกี่ยวข้องหรือเปล่า?
- บัญชีของผู้เขียนรีวิวมีประวัติต้องสงสัยหรือไม่?
- สถานที่นั้นมีความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัยหรือไม่? เช่นในช่วงก่อนหน้านี้ มีรีวิวเยอะมากเป็นพิเศษ หรือจ้างมาเขียนหลอกลวง
3.การรักษา ‘ความถูกต้อง-เชื่อถือได้ ของรีวิว
.
ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างให้ผู้ใช้เข้ามามีส่วนร่วม จึงต้องตื่นตัวป้องกันไม่ให้มีการฉ้อโกงและละเมิดเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
.
โดยวิธีการจัดการและรักษา มีดังนี้
- การทำให้ทุกคนสามารถแจ้งรีวิวที่ละเมิดนโยบายได้โดยง่าย
ที่ผ่านมา ทีมเจ้าหน้าที่ของกูเกิลทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบเนื้อหาที่ถูกแจ้งว่าไม่เหมาะสม เมื่อพบว่ารีวิวละเมิดนโยบาย ก็จะนำรีวิวนั้นออกทันที และในบางกรณีจะระงับบัญชีของผู้เขียนรีวิว ตลอดจนดำเนินการทางกฎหมายด้วย
.
- นอกเหนือจากการตรวจสอบเนื้อหาที่ถูกแจ้ง ทีมงานยังได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อตรวจสอบความเสี่ยงที่จะเกิดการละเมิด ซึ่งสามารถลดโอกาสที่ผู้ละเมิดจะโจมตีสำเร็จลงได้
.
ด้วยจำนวนผู้ใช้ Google Maps เพื่อค้นหาและนำทางนั้นมีมากเป็นจำนวนถึง 1 พันล้านคนต่อเดือน ทำให้กูเกิลต้องตั้งใจและมุ่งตรวจสอบว่าข้อมูลที่ทุกคนเห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งรีวิวนั้นเชื่อถือได้ และการดูแลที่ว่ามาทั้งหมดนี้จะไม่มีวันสิ้นสุด มีแต่ นับวันยิ่งจะพัฒนาต่อ และทำมันอย่างต่อเนื่องและสุดความสามารถเพื่อไม่ให้มีรีวิวที่ละเมิดและหลอกลวงต่อผู้ใช้งาน Google Maps ทุกคน