รายละเอียดต่อจากนี้คือรายชื่อกรุสมบัติที่เป็นแหล่งทุนของภาครัฐที่มีมอบให้กับธุรกิจ Start Up/ SME ตลอดทั้งปี ซึ่งจริง ๆ มีเยอะมากนะ
และเพื่อให้ง่ายในการเข้าหาแต่ละแหล่ง จึงได้แบ่งทุนออกไปเป็นกลุ่ม ตามระดับสเกลของการขยายธุรกิจออกเป็น 4 ระดับด้วยกัน คือ
Pre-Seed, Seed, Pre-A และ Series-A โดยมีหน่วยงานที่พร้อมที่จะมอบทุนในระดับต่าง ๆ ตามรายชื่อเหล่านี้ ซึ่งบางหน่วยงาน มีทุนตั้งแต่ระดับเล็ก ๆ จนถึงระดับสูงเลยก็มี
รวมรายชื่อแหล่งเงินทุนส่งเสริมธุรกิจ Start Up/ SME ของภาครัฐ
ทุนพัฒนาผู้ประกอบการระดับ Pre-Seed
(ทุนละ 500,000 – 1,500,000 บาท)
- กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund)
- เครือข่ายร่วมพัฒนาผู้ประกอบการ อุทยานวิทยาศาสตร์ ประเทศไทย สวทช. (TED Fund)
ทุนพัฒนาผู้ประกอบการระดับ Seed
(ทุนละ 750,000 – 5,000,000 บาท)
- สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)
- กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund)
- สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA)
- สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
- สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอกนิกส์ (EE1) กระทรวงอุตสาหกรรม
- หน่วยบริการและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
- สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
หมายเหตุ ในระดับนี้มีทุนที่เรียกว่า “คูปองดิจิทัล” 10,000 บาทอยู่ด้วย คือ แจกให้ลูกค้าของเรามาซื้อของเรา ซึ่งธุรกิจเราสามารถรับหลายคูปองได้
ทุนพัฒนาผู้ประกอบการระดับ Pre-A
(ทุนละ 2,000,000 – 120,000,000 บาท)
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
- กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund)
- สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA)
- สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)
ทุนพัฒนาผู้ประกอบการระดับ Series-A
(ทุนละ 5,000,000 – ไม่จำกัดงบประมาณ)
- ศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
เอาจริง ๆ แล้วยังมีรายชื่อโครงการทุนยิบย่อยออกไปอีกกว่า 30 ทุน ซึ่งบางทุนมีการให้กับธุรกิจ Start Up และ SME มาต่อเนื่องทุกปี บางทุนก็เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่ และแน่นอนว่า ปีต่อ ๆ ไปก็อาจจะมีชื่อโครงการทุนใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากกว่านี้ด้วย
คำถามคือ แล้วใครจะได้ทุนนี้ไป ธุรกิจเราจะมีสิทธิ์ขอได้ด้วยไหม
เชื่อว่านี่คือคำถามของใครหลาย ๆ คนในตอนนี้
ซึ่งก็ต้องตอบว่า
“ใคร ๆ ก็สามารถคว้าทุนเหล่านี้มาใช้ได้”
แล้วพวกเรารู้ไหมว่าส่วนใหญ่เป็นทุนให้เปล่าเลย ไม่ต้องคืน ไม่มีดอกเบี้ย เพียงแต่เราเข้าเกณฑ์การคัดเลือกของแต่ละหน่วยงาน ก็มีสิทธิ์ที่จะได้ทุนเหล่านี้ได้เช่นกัน
หลักเกณฑ์ที่ว่าคืออะไร ต้องทำอย่างไรถึงจะเข้าตากรรมการให้ทุน
เท่าที่นินจาการตลาดมีโอกาสให้คำปรึกษากับลูกศิษย์ที่เดินมาขอให้ช่วย ซึ่งล้วนแล้วต้องการให้เจาะลึกกันเรื่องจุดเด่นจุดขายของสินค้า/บริการทั้งนั้น
เพื่อที่จะแปลงมาเป็นวิธีการและแนวทางการนำเสนอ การ Pitching ในการเข้าไปตะลุยล่าทุนเหล่านี้ ให้โดนใจและเข้าตากรรมการ
จนทำให้สรุปเหตุปัจจัยออกมาเป็น 5 เรื่องที่เราต้องเตรียมความพร้อมให้ได้ หากจะขอทุนให้ผ่าน ดังนี้ครับ
ปัจจัยหลักสำคัญที่ควรเตรียมให้พร้อมเพื่อขอทุน
- สินค้า/ บริการ ต้องแตกต่าง ซึ่งจริง ๆ ต้องพูดว่า โมเดลธุรกิจที่มีแนวคิดที่แตกต่างมักสร้างโอกาสคว้าทุนได้มากกว่า
- แนวคิดที่ว่านั้น ต้องส่งผลกระทบในวงกว้างกับผู้คน สังคม หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อม
- โครงสร้างของธุรกิจ การบริการจัดการ การเข้าถึงตัวเลข มองเห็นต้นทุน กำไร/ ขาดทุน ได้อย่างโปร่งใส
- ธุรกิจมีโอกาสการเติบโตได้ เช่น การมีแผนการธุรกิจ/ การตลาด ที่สร้างผลกำไรยั่งยืนจริง
- เรื่องสุดท้ายคือ การนำเสนอที่น่าสนใจ ทั้งตัวสไลด์และผู้นำเสนอ Pitching
นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายเรื่อง “ทั้งเล็กและใหญ่” ที่เราต้องรู้ ต้องเตรียม ต้องทำความเข้าใจ เพื่อทำให้ธุรกิจเรามีโอกาสเข้าไปนำเสนอต่อกรรมการ จนผ่านและได้ทุนมาสร้างโอกาสต่าง ๆ ให้กับธุรกิจได้สมใจ
ซึ่งหากใครคิดว่าธุรกิจของเราน่าจะมีโอกาส แล้วตัวเราก็น่าจะมีโอกาสเข้าไปคว้าทุนต่าง ๆ ได้ แต่ยังไม่ชัวร์ หรือขาดความมั่นใจในบางประเด็น
ผมอยากให้พวกเราอ่านข้างล่างต่อจนจบครับ
คอร์สติวเข้ม ทำเล่มเสนอ
ให้เจอสมบัติ
ใครมีสินค้าและบริการที่มีนวตกรรม มีความโดดเด่น และแตกต่าง แล้วต้องการพัฒนาให้เข้าตากรรมการทุนที่เปิดให้พวกเราคว้ากัน
มีทุนวิจัย ทุนนวตกรรม ทุนขยายตลาด มากมายที่เปิดและกำลังจะเปิด ด้วยงบประมาณของทั้งภาครัฐและเอกชนไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000 ล้านบาท
บางคนรู้ว่ามี แต่ไม่รู้ว่าจะแต่งองค์ทรงเครื่องยังไง ให้ธุรกิจเราคว้าทุนเหล่านั้นมาใช้ได้
ถ้าคุณ
กำลังรู้สึกแบบนี้อยู่
ว่าเรามีของดี
สินค้าของเราไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร มีจุดขายที่เป็นนวตกรรมที่แตกต่างอยู่ ถ้าใครใช้ ต้องได้ออกปากชื่นชม
แต่ไร้ทุนขยายตลาด/พัฒนาสินค้า
แล้วกำลังอยากขยายตลาดให้ใหญ่ขึ้น แต่ยังมีทุนไม่มากพอสำหรับสร้างโอกาสแบบนั้น
มีแค่ไอเดีย จะพอไหม
หรือถ้าแค่มีความคิด มีไอเดีย นวตกรรมใหม่ ๆ อยู่ แล้วอยากหาทุนมาสร้างให้เกิดเป็นสินค้าจริงที่ขายได้
เปิดให้แล้วกับคอร์สพิเศษ
ที่จะพาคุณไปหาแหล่งเงินทุน
ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีทุนให้ธุรกิจคว้า
กว่า 1,000 ล้านบาท
ในแต่ละปี
นำขบวนทัพโดย (ที่ปรึกษา)
อ.ออดี้ นินจาการตลาด
ผู้ประกอบการ – ที่ปรึกษา – เทรนเนอร์ ด้านการสื่อสารการตลาด
ที่จะนำประสบการณ์ที่เคยผ่านการ Pitch ทั้งเล็ก และ ใหญ่ สำเร็จรวมกว่าร้อยล้านบาท มาถ่ายทอดในแบบที่มีแพทเทิน เดินตามได้
รวมถึงประสบการณ์การถ่ายทอดเทคนิคที่เคยพาลูกศิษย์ Pitching คว้าเงินล้านผ่านรายการดังและเวทีต่างมาแล้วหลายครั้ง
นินจาพาขอทุน คอร์สติวเข้ม ทำเล่มเสนอ ให้เจอสมบัติ
ได้เรียนอะไรบ้าง
เปิดแหล่งเงินทุนและวิธีเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งภาครัฐและเอกชน
การเตรียมข้อมูลเอกสาร วิธีการสมัครให้ผ่านการคัดเลือก
การเตรียมการนำเสนอ Pitching Deck (Presentation)
Workshop เทคนิคการพูดเพื่อนำเสนอให้กรรมการประทับใจ
พร้อมตรวจสุขภาพธุรกิจ กับ 5 องค์ประกอบหลักสำคัญ สำหรับการแต่งตัวก่อนขอทุน
2. เพื่อเช็คดูว่าสินค้า/ บริการของคุณส่งผลกระทบที่ดีในวงกว้าง ต่อสังคม จนทำให้ใครก็อยากเข้าหา
3. เพื่อเช็คดูว่าโครงสร้างธุรกิจภายใน สมดุล เห็นตุ้นทุน กำไร ใครเข้ามาก็ไม่ต้องกลัว
4. เพื่อเช็คดูว่าแผนการตลาด ทำกำไรได้จริง มีข้อมูลอ้างอิงชัดเจนหรือไม่
5. เพื่อเช็คดูว่า่คุณมีวิธีการนำเสนอ เล่าเรื่อง ให้ว้าว แล้วหรือยัง
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับนักเรียน “นินจาพาขอทุน”
1. เตรียมคอมพิวเตอร์ Notebook สำหรับใช้ในการเรียน
2. เตรียมรูปภาพสินค้า ภาพโลโก้ ภาพผู้บริหาร (ดิจิทัลไฟล์) ไว้ในเครื่องโน๊ตบุ๊ค
3. เตรียมไฟล์ดิจิทัลเอกสารสำคัญของบริษัท (ไม่ต้องใช้กระดาษ) เพื่อใช้สำหรับสมัครเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ที่มีในขณะนั้น
– บัตรประชาชนกรรมการบริษัท
– หนังสือรับรองบริษัท
– บอจ.5
– เอกสารอื่น ๆ ถ้ามี ติดมาเผื่อไว้ได้เลย เช่น สิทธิบัตร ใบรับรอง ฯลฯ
4. เตรียมข้อมูลสินค้า และบริการ จุดเด่น จุดแตกต่างมาให้พร้อม เพื่อใช้ในการลงรายละเอียด และการทดลอง Pitching (ทำ FAB เอาไว้ จะไปได้ไวกว่า)
5. สามารถนำสินค้า หรือสื่อที่แสดงถึงสินค้ามาด้วยได้ สำหรับประกอบการ Pitching (ไม่บังคับ)
6. เสื้อคลุม (เผื่อห้องเรียนจะหนาวนะ)
รีวิวจากนักเรียน นินจาพาขอทุน รุ่นที่ 1
หนึ่งในเคสการ Pitching ของนักเรียน
ฟังเสียงนักเรียนที่เคยผ่านการรับคำปรึกษาก่อน Pitching
วัน/ เวลา/ สถานที่เรียน
รุ่นที่ 1 ศุกร์ที่ 20 ตุลาคม 2023
รุ่นที่ 2 ศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2023
เริ่มเรียนเวลา 9:30 – 16:00 (ถ้าเรียนแล้วเห็นโอกาส ก็เตรียมใจเผื่อเลิกช้าไว้ด้วยนะ)
พร้อมเบรคและอาหารกลางวัน
S Bangkok Navamin Hotel
ค่าใช้จ่าย
ราคา 5,900 บาท
พิเศษสำหรับสมาชิก SME need to know Club
ลดพิเศษ 3,100 บาท
ชำระเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
รายละเอียดการชำระเงิน
– บัญชีออมทรัพย์: 877-7-115018