เทคโนโลยี AR กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ล่าสุด เดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน ได้นำมาใช้เป็นระบบนำทางในห้างเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย สามารถพานักช็อปเดินไปได้ทุกจุด
ครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง เดอะมอลล์ กรุ๊ป และบริษัท Resonai ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จากอิสราเอล เปิดตัวแผนที่นำทาง “Indoor Navigation” ที่เป็นระบบนำทางภายในอาคารด้วยเทคโนโลยี AR ในรูปแบบภาพเสมือนซ้อนภาพจริง โดยใช้งานผ่านแอพ M Card
.
แล้วอะไรคือ AR (Augmented Reality) ?
AR (Augmented Reality) คือเทคโนโลยีเสมือนจริงที่ผสมผสานโลกแห่งความเป็นจริง (Real) กับคอมพิวเตอร์กราฟฟิค (Virtual) ให้เสมือนมีชีวิตในโลกหนึ่ง โดยทำให้วัตถุเสมือน 3 มิติที่ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือวิดีโอประมวลผล ทำให้เราสามารถตอบสนองกับวัตถุจำลองได้
.
หลายคนคงรู้จักเกม Pokemon Go ที่ให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ AR โดยสามารถค้นหาและจับโปเกม่อนได้จากการสำรวจสถานที่ในชีวิตจริง ซึ่งมียอดดาวโหลดเกินพันล้านครั้ง นับเป็นการกระตุ้นตลาด AR ครั้งใหญ่ ทำให้นักการตลาดเปลี่ยนความคิดที่ว่า AR จำกัดเพื่อความสนุกของเด็กกับคนเล่นเกม กลายเป็นตื่นตัวใช้ AR เพื่อการตลาดมากขึ้นกับลูกค้ายุคดิจิทัล
.
เมื่อเทียบเคียงกรณีการใช้ AR ของเดอะมอลล์จะพบว่าน่าสนใจทีเดียว เพราะเจ้าแผนที่นำทาง “Indoor Navigation” เพียงแค่สแกนด้วยกล้องมือถือ ก็จะมีลูกศรนำทางไปยังจุดหมายที่ต้องการ เช่น ร้านค้าแบรนด์ที่ต้องการ แสดงข้อมูลเส้นทางและจุดที่น่าสนใจเช่น บันไดเลื่อน ลิฟต์ ห้องน้ำ ช่วยให้ไม่เสียเวลาเดินหา
นับว่าช่วยอำนวยความสะดวกของคนที่มาช็อปปิ้งหรือเที่ยวห้างได้มาก เพราะปกติเราจะพบปัญหาเวลาเดินห้างใหญ่หรือห้างที่ไม่เคยมาก่อน เช่น หลงทาง หาร้านค้าไม่เจอ หาทางออก หาห้องน้ำไม่เจอ หลายครั้งก็ส่งผลให้ลูกค้าที่มาเที่ยวห้างเกิดความไม่พึงพอใจได้ และอาจไม่กลับมาใช้บริการซ้ำอีก
.
นอกจากนี้เทคโนโลยี AR ยังสามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ร้านค้าหรือแบรนด์ต่างๆ ได้ขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าบริการ ได้ด้วยการสื่อสารโปรโมชั่น ส่วนลด สิทธิประโยชน์ต่างๆ ในรูปแบบ Model 3D บนพื้นที่ AR ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสิทธิพิเศษได้รวดเร็วง่ายดาย
ดังนั้น AR จึงเป็นเทคโนโลยีที่อาจกลายเป็นมาตรฐานของห้างที่ควรจะมีนับต่อจากนี้ เพราะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า มีความสนุกในการช็อปปิ้ง มีแผนที่นำทางระบุพิกัดแบบ Real-Time ที่ใช้ง่าย แม่นยำ และสะดวกกว่าแผนที่แบบป้ายที่บางครั้งสร้างความสับสนได้ ทำให้ประหยัดเวลาเดินหาร้านซื้อของ
.
ส่วนลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้ประโยชน์จาก AR ก็คือกลุ่มคนพิการ กลายเป็นการเพิ่มโอกาสที่เท่าเทียมให้ได้ซื้อของช็อปปิ้งสะดวกมากขึ้น เมื่อสามารถแนะนำเส้นทางที่ง่ายกว่าสำหรับคนพิการ ในการให้ข้อมูลเส้นทางการขึ้นลิฟต์ บันไดเลื่อนต่างๆ ไม่ต้องถามทางหรือดูป้ายอีกต่อไป
.
นั่นจึงทำให้ AR กลายเป็นเครื่องมือการตลาดและโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ แบรนด์สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้สื่อสารโดยตรงกับลูกค้า ทั้งสินค้าใหม่และข้อเสนอพิเศษ มีการสร้างประสบการณ์ สร้างปฎิสัมพันธ์กันผ่านรูปแบบ 3 มิติ และนำไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์ได้
นอกจากนี้ข้อมูล AR ยังมาใช้เป็น Customer Journey ในการวางแผนการตลาดได้อีก ในอนาคต AR จะกลายเป็นเทรนด์การสร้างยอดขายรูปแบบใหม่ ให้ลูกค้าได้เลือกสินค้าที่ตรงใจ ได้เห็นภาพสินค้าจริง ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายและเกิดความเชื่อมั่นในตัวแบรนด์ ดังนั้นอย่ามองข้ามการนำ AR มาปรับใช้กับธุรกิจเพื่อสร้างเติบโต
.
ใครที่จะไปเดินเดอะมอลล์ ลองโหลด AR Indoor Navigation มาใช้ดูกันนะว่าเวิร์คไหม สะดวกแค่ไหน แล้วมาคอมเมนต์ให้ฟังหน่อย