สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวนินจาการตลาด วันนี้เราจะมาชวนคุยเรื่องสุดฮอตในวงการการตลาดยุคนี้กัน นั่นก็คือ “Brand Superfans” หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า “สาวกแบรนด์” นั่นเอง
รู้กันมั้ยครับว่า ยุคนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เทคโนโลยีมาแรงจนการทำการตลาดต้องเปลี่ยนไปเลย แต่ก่อนเราต้องพึ่งพาสื่อออฟไลน์อย่างวิทยุ โฆษณา นิตยสาร แต่เดี๋ยวนี้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ง่ายมากๆ เลย
.
แล้วอะไรที่มีอิทธิพลมากในยุคนี้ ก็คือการตลาดแบบ Word of Mouth หรือการบอกต่อนั่นเอง แถมยังมีเรื่องการปกป้องแบรนด์ ที่เรียกว่า Brand Superfans อีกต่างหาก เรียกได้ว่าถ้าทำได้ แบรนด์ของเราจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นแน่นอน
แล้ว Superfans คืออะไรกันแน่
Superfans ก็คือกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่แค่ซื้อสินค้าเราธรรมดา ๆ นะครับ แต่เขารัก ศรัทธา และภูมิใจในแบรนด์เรามากๆ จนอยากบอกต่อ แถมยังปกป้องแบรนด์เราอีกต่างหาก เรียกว่าเหนือกว่าแค่ซื้อเพราะราคาถูก คุณภาพดี หรือหาซื้อง่ายไปอีกขั้น
.
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเรามี Superfans แล้ว ก็ถ้าแบรนด์เราสามารถทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง และอยากบอกด้วยความประทับใจนั้นต่อไป แสดงว่าแบรนด์ของเราเริ่มมี Superfans เกิดขึ้นแล้วละครับ
3 เหตุผลทำไมเราต้องสร้าง Superfans ด้วย
.
1. ประหยัดงบโฆษณาสุดๆ ไม่ต้องไปเสียเงินจ่ายค่าโฆษณามากมาย เรียกว่าใช้เงินน้อยกว่าการทำการตลาดแบบอื่นๆ เลยนะครับ
.
2. สร้างความน่าเชื่อถือ Superfans จะช่วยบอกต่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สร้างความเชื่อมั่นให้แบรนด์แบบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
.
3. ขยายฐานลูกค้าแบบธรรมชาติ เมื่อคนเชื่อถือ Superfans ของเรา ก็จะมีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาเองโดยอัตโนมัติ
แล้วเราจะสร้าง Superfans ยังไงกันบ้างครับ
1. การสร้างประสบการณ์
.
ลองดู Apple ครับ พวกเขาสร้างประสบการณ์ทั้งระบบนิเวศ ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม ใช้งานง่าย ไปจนถึงบริการหลังการขาย ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป อยากบอกต่อคนอื่นๆ อีก ทำให้ลูกค้ากลายเป็น Superfans ที่พร้อมจะปกป้องแบรนด์ยามมีคนวิจารณ์ แล้วก็รอคอยสินค้าใหม่ๆ อย่างใจจดใจจ่อ
2. การชวนให้รีวิวแล้วให้รางวัล
.
ร้านอาหารมักนิยมทำแบบนี้ สร้างแรงจูงใจด้วยส่วนลดหรือของแถมพิเศษ ลูกค้าได้แสดงความเห็นที่มีค่า ร้านก็ได้คำชมที่จริงใจ ได้ข้อเสนอแนะที่นำไปปรับปรุงได้ ที่สำคัญคือได้กระจายข่าวแบบปากต่อปาก (Word of mouth ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของร้าน อยากกลับมาอุดหนุนซ้ำๆ จนกลายเป็น Superfans ในที่สุด
3. การให้รางวัลคนที่แนะนำเพื่อน
.
ยกตัวอย่าง Dropbox ไม่ได้แค่ให้พื้นที่เก็บข้อมูลฟรีเพิ่ม แต่ทำให้เป็นเหมือนเกมสนุกๆ ยิ่งชวนเพื่อนมาก ยิ่งได้พื้นที่มาก ทำให้คนรู้สึกว่าได้ประโยชน์จริงๆ จากการแนะนำ วิธีนี้สร้างความผูกพันระหว่างผู้ใช้กับแบรนด์ จนอยากบอกต่อเรื่อยๆ นี่คือวิธีสร้าง Superfans โปรโมทแบรนด์โดยไม่ต้องจ้าง
4. การจัดกิจกรรมให้คนมีส่วนร่วม
.
Coca-Cola ทำได้ดีมากกับแคมเปญ “Share a Coke” ที่พิมพ์ชื่อคนบนขวด แบ่งปันกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก กลายเป็นประสบการณ์ที่มีความหมาย ผู้คนแห่แชร์ภาพขวดโค้กที่มีชื่อตัวเองหรือคนที่รักลงโซเชียลมีเดีย ทำให้แคมเปญกระจายในวงกว้าง ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ อยากมีส่วนร่วมและบอกต่อด้วยตัวเอง
5. การสร้างความไว้วางใจและความพิเศษ
.
Tesla ให้ลูกค้าลงทะเบียนขับรถทดลองด้วยตัวเอง โดยไม่มีพนักงานคอยติดตาม ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่อย่างเต็มที่ โดยไม่มีแรงกดดัน ลูกค้ารู้สึกว่า Tesla เชื่อใจมากพอที่จะมอบรถราคาแพงให้ลองขับ สร้างความผูกพันกับแบรนด์ จนอยากเป็นเจ้าของรถ Tesla และพร้อมจะบอกต่อประสบการณ์ดีๆ นี้ให้คนอื่นฟัง
.
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่นักการตลาดไม่ค่อยบอก นั่นก็คือการหา Unmet Need ให้เจอ เข้าใจความต้องการของลูกค้าในเชิงลึก แล้วตอบโจทย์ให้ตรงจุด ถ้าทำแบบนี้ได้รับรองว่าลูกค้าจะรักแบรนด์เราแบบหัวปักหัวปำเลยล่ะ
สรุปแล้ว การสร้าง Superfans นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะครับ แต่ถ้าทำได้ รับรองว่าแบรนด์คุณจะปังไม่หยุด ได้ทั้งยอดขาย ได้ทั้งคนรักแบรนด์ แถมยังมีคนช่วยปกป้องแบรนด์อีกต่างหาก
ใครที่อ่านเรื่องนี้จบแล้ว ลองแชร์ประสบการณ์ดีๆ ที่เคยได้รับจากแบรนด์ที่ชื่นชอบในคอมเมนต์ด้านล่างกันนะครับบอกเล่าสั้นๆ ว่าอะไรที่ทำให้คุณประทับใจจนอยากบอกต่อ หรือรู้สึกเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์นั้น เรารออ่านอยู่ครับผม
