ต้องยอมรับว่า Trends ต่าง ๆ ในตอนนี้ มาไวไปไวมาก ๆ แต่ถ้าเราทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับ Trends เหล่านั้นได้ทัน ก็ค่อนข้างได้ผลตอบรับที่ดีอยู่ไม่ใช่น้อยเลยล่ะ เพราะเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ชอบคอนเทนต์ที่แปลกใหม่และสร้างสรรค์ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่กำลังเป็นกระแสอยู่ด้วยล่ะก็ บอกเลยว่าแชร์กันกระจาย
แต่การที่จะทำคอนเทนต์แบบเรียลไทม์นั้น อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกแบรนด์ ทุกสินค้า เพราะกระแสบางอย่างก็ไม่สามารถนำมาทำเป็นคอนเทนต์ได้ หรือถ้าทำได้ ก็อาจจะไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ไม่สามารถเชื่อมโยงกับสินค้าได้ หรือไม่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของเรา
อย่างที่ได้เกริ่นไปว่า เรียลไทม์คอนเทนต์นั้น เป็นอะไรที่น่าสนใจ ใคร ๆ ก็อยากทำ เพราะค่อนข้างได้ engagements ที่ดี แต่ไม่ใช่ทุกแบรนด์หรือทุกสินค้า ที่จะเหมาะกับคอนเทนต์รูปแบบนี้ แต่อย่าเพิ่งถอดใจไป เพราะยังมีอีกหนทางนึง ที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำคอนเทนต์ได้ นั่นก็คือ “Trends Report”
Trends Report ก็แปลกันแบบตรงตัวเลยว่า การรายงานเรื่องราวหรือ Facts ที่กำลังเป็นที่นิยม หรือเรื่องราว ๆ ต่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ โดยอาจจะรายงานเป็นตัวหนังสือ บวกกับตัวเลขทางสถิติต่าง (ถ้ามีก็จะดีมาก) และรูปภาพ กราฟต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้คนรู้สึกตระหนักถึงตัวเลขที่มีการขึ้นลงเหล่านั้น และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในที่สุด
เชื่อไหมว่าข้อมูลทางสถิติหรือตัวเลขในเรื่องต่าง ๆ ยังคงกระตุ้นความสนใจให้ผู้อ่านได้ดีอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องที่กำลังเป็นกระแส หรือเรื่องที่ถูกพูดถึงในสังคมวงกว้าง เพราะอะไรที่เป็นข้อมูลเชิงลึกและชัดเจนแบบนี้ ค่อนข้างสร้าง impact อะไรบางอย่างในใจได้อยู่พอสมควร ซึ่งถ้าหากว่าเราลองนำข้อมูลเหล่านี้ มาปรับใช้ในการทำคอนเทนต์ของเราบ้าง ก็คงน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ
ซึ่งการที่เรารู้จักและเข้าใจ target หรือกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นอย่างดี จะเป็นอะไรที่ได้เปรียบมากในการทำคอนเทนต์นะจะบอกให้ เพราะถ้าเราไม่รู้ว่าเรากำลังสื่อสารกับใคร แน่นอนว่าเราก็จะไม่รู้ว่าควรจะสื่อสารยังไง ดังนั้น ควรหากลุ่มเป้าหมายของตัวเองให้เจอก่อน แล้วค่อยเขยิบไปทำอย่างอื่นนะจ๊ะ
สมมุติว่าคุณทำธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับรถยนต์ และกลุ่มเป้าหมายของคุณคือ คนอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะแต่งงานมีครอบครัวกันแล้ว ก็อาจจะนำข้อมูลเชิงสถิติของจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนน มาปรับใช้ในการทำคอนเทนต์ก็ได้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านตระหนักถึงอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเราอาจจะพูดเชื่อมโยงเข้ากับสินค้าของเราสักหน่อย เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ว่า ถ้าซื้อสินค้าของเราแล้ว จะช่วยลดอุบัติเหตุหรือช่วยอำนวยความสะดวกอะไรบางอย่างได้ เมื่อรถยนต์ขัดข้องหรือเกิดอุบัติเหตุ
.
ซึ่งข้อมูลเชิงสถิติของคอนเทนต์เหล่านี้ อาจจะเกิด impact อะไรบางอย่างกับกลุ่มเป้าหมายวัยกลางคนของคุณ เพราะอย่างที่บอกไปว่าส่วนใหญ่น่าจะมีครอบครัวกันแล้ว แน่นอนว่าเมื่อมีลูก ๆ หรือสามี/ ภรรยา ก็เริ่มมีการคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตกันมากขึ้น หรือพูดง่าย ๆ ว่ากลัวตายกันมากขึ้นนั่นแหละ เพราะอยากอยู่กับคนที่รักไปนาน ๆ
Photo: frank.co.th (Facebook)
พอจะมองภาพกันออกใช่ไหมครับ สำหรับการทำคอนเทนต์แนว Trends Report ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียดี ๆ ในการทำคอนเทนต์เลย เพราะนอกจากจะได้ความแปลกใหม่แล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าเกิด awareness และ interest ต่อแบรนด์หรือสินค้าของเราได้อีกด้วยนะ
.
แต่ก่อนที่จะคิดไปไกลถึงขั้นนั้น ขอให้หาคำตอบให้เจอก่อนว่า target ของเราคือใคร เพราะจะช่วยให้เทรนด์ที่เราต้องหามาทำคอนเทนต์นั้นแคบลง และตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายของเราสนใจมากขึ้น ไม่ต้องคอยไล่ตามทุกเทรนด์ให้เหนื่อย แต่ถ้าอยากจะลองดูก็ทำได้นะ แต่ก็ต้องหาทางเชื่อมโยงมาถึงแบรนด์หรือสินค้าของเราให้ได้ก็แล้วกัน
สามารถติดตามเนื้อหาสุด Exclusive ของนินจาการตลาดที่ไม่ได้ลงที่ไหนและคอร์สเรียนฟรี ให้พิเศษเฉพาะใน Facebook กลุ่มปิด “Digital Media Planning 2020” คลิกไปขอเข้าร่วมได้เลย มีอัปเดตเนื้อหาอยู่ตลอด
และหากมีคำถามอยากให้ช่วยเหลือด้านการสื่อสารการตลาดดิจิทัล ทั้งเรื่องเครื่องมือ (Media), เนื้อหา (Content) และ กลยุทธ์ (Strategy) สามารถเข้าไปทักสอบถาม อ.ออดี้ และผู้รู้มากมายใน “หมู่บ้านนินจา” LINE OpenChat
