fbpx

พื้นฐานการสร้าง Lead ไว้เก็บเกี่ยว – กลยุทธ์บ่อน้ำนินจา

Home » พื้นฐานการสร้าง Lead ไว้เก็บเกี่ยว – กลยุทธ์บ่อน้ำนินจา

พื้นฐานการสร้าง Lead ไว้เก็บเกี่ยว – กลยุทธ์บ่อน้ำนินจา

Lead บ่อน้ำเรียกลูกค้า

“กลยุทธ์บ่อน้ำ”
.
เพื่อที่จะเก็บเกี่ยวยอดขายได้ซ้ำๆ กับเฉพาะลูกค้าที่พร้อมจะซื้อ หรือมีแนวโน้มที่พร้อมจะซื้อ ในยุคที่ Facebook Reach ต่ำเตี้ย…
.
ทำให้ขายได้… ให้ขายดี… เพราะเก็บฐานลูกค้าอยู่ใกล้ตัว
.
แนวทางการปรับตัวในช่วงนี้ หลายคนอาจจะต้องใช้เงินลงโฆษณาเยอะหน่อย เพราะการเข้าถึง (Reach) ที่ลดลงอย่างหนัก
.
Facebook เค้าเอาจริง… จริงๆ นะ
.
พวกเราคงเคยได้ยินเรื่องการขุดบ่อเก็บกักน้ำเอาไว้ใช้ยามแล้ง (เช่นยามนี้) เมื่อใดที่ฝนตก ก็จะมีน้ำใช้ มีน้ำกิน มีน้ำรดพืชผัก…
.
แต่ถ้าไม่เก็บกักไว้เลย น้ำมาก็ไหลลงทะเลหมด
.
ถ้าฝนตก…
ถามว่า ได้กินน้ำไหมตอนนั้น… ตอบเลยว่า ได้กิน
ถามว่า ได้มีน้ำใช้ไหมตอนนั้น… ตอบเลยว่า ได้ใช้
ถามว่า ได้มีนำไว้รดพืชผักไหมตอนนั้น… ตอบเลยว่า ใช่เรามี
.
แต่ถามว่าหลังจากฝนหยุดไปแล้วละ เกิดอะไรขึ้น..?
.
ถ้าฝนไม่ตกอีกเลย (Facebook ลด Reach ลงไปอีก) จะเกิดอะไรขึ้น
.
หากเตรียมตัวขุดบ่อน้ำไว้เนิ่นๆ แล้วปล่อยให้น้ำมาขังรวมกัน เมื่อยามแล้งมาเยือน เราก็จะมีน้ำไว้ใช้… ไว้กิน… ยิ่งขนาดบ่อใหญ่ ก็ได้กินได้ใช้อีกยาวนาน (ขึ้นอยู่จำนวนฐานลูกค้าที่เก็บไว้)
.
การโฆษณาก็เช่นกัน ถ้าเราไม่ได้เก็บฐานลูกค้าของเราไว้เลย เมื่อใดที่การเข้าถึงของลูกค้าต่ำลงมากหรือไม่มีเลย วันนั้น (ก็คือวันนี้) จะต้องใช้ค่าโฆษณาสูงขึ้นๆ

Lead บ่อน้ำเรียกลูกค้า

นินจากการตลาด เข้าใจว่าพวกเราอาจจะเคยชินกับการโฆษณาแล้วมียอดขาย แต่เมื่อใดที่หยุดโฆษณา… ยอดขายก็หยุดด้วย เช่นกัน จริงไหม… ใครเป็นบ้าง…
.
นินจาเลยอยากจะแนะนำแนวทางเคล็ดลับให้ทุกท่าน มาขุดบ่อน้ำดิจิทัลกันไว้แต่เนิ่นๆ ซึ่งบ่อนี้จะเหมือนเป็นบ่อที่กักเก็บฐานลูกค้าเอาไว้สำหรับการสื่อสารทุกอย่างที่เราต้องการได้อย่างรวดเร็ว แถมตรงกลุ่มเป้าหมายแบบเต็ม
.
เครื่องมือทางดิจิทัลนั้นสามารถทำตัวเป็นบ่อน้ำกักเก็บฐานลูกค้าให้เราได้ เมื่อมีฐานลูกค้ามากพอ เราสามารถที่จะนำฐานข้อมูลลูกค้าเหล่านั้นมาใช้ในการสื่อสารได้ ด้วยต้นทุนที่ทั้งประหยัด ทั้งตรงกลุ่มเป้าหมาย
.
นินจาการตลาดจะเล่าให้ฟังทีละตัวๆ นะ…

อันแรกเลย เป็นบ่อฐานลูกค้าที่ขุดง่ายที่สุด เพราะอาศัยแค่มีคนเข้ามามีส่วนร่วมกับโพสต์ เช่น
.
– คนที่ดูคลิป (Vido view)
– คนที่กรอกข้อมูล Lead เสร็จสมบูรณ์ (Lead form)
– คนที่เป็น Ad บางตัวดูเช่น Collection Ad หรือ Canvas (Fullscreen Experience)
– คนที่มีปฏิสัมพันธ์กับเพจ (Facebook Page)
– ฯลฯ
.
ใครก็ตามที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมตามตัวอย่างข้างบนแล้ว เราสามารถจะเก็บรวมพวกเค้าเหล่านั้นมาเป็นบ่อฐานข้อมูล แล้วใช้การยิงโฆษณาไปภายหลังได้
.
เราจะใช้การสร้าง Custom Audience ซึ่งเป็นเครื่องมือหลังบ้านตัวหนึ่งของ Facebook ในการใช้ฐานของข้อมูลลูกค้าที่มีส่วนร่วมกับเพจ มาใช้ในการสร้างเป็น Audience เพื่อยิงโฆษณาต่อไป
.
อ้อ ใช้การโฆษณาได้เฉพาะ Facebook Ad เท่านั้นนะครับเราจะเรียกการโฆษณาด้วยวิธีการแบบนี้ว่าRe-Tarketing

อันถัดมา อันนี้เราสามารถที่จะใช้การโฆษณาได้ทั้งฝั่ง Facebook Ad และ Google Adword
.
บ่อนี้นั่นก็คือ “เว็บไซต์”
.
การมีเว็บไซต์ ไม่ได้มีประโยชน์แค่เพียงเป็นหน้าตา หรือเป็นพื้นที่สำหรับการให้ข้อมูลของสินค้าหรือบริการเท่านั้น 
.
มันยังเป็นตัวเก็บฐานข้อมูลลูกค้าชั้นดีอีกด้วย
.
วิธีการคือ เราจะต้องนำ Code ของฝั่ง Facebook ที่เรียกว่า Pixel ไปฝังไว้ในเว็บ เมื่อฝังแล้ว ใครก็ตามที่เข้ามาเว็บไซต์ เราสามารถจะเลือกได้เลยว่า อยากจะเอาคนที่เคยเข้าหน้าไหนในเว็บเรามาเป็นเป็น Audience
.
แล้วก็นำมายิงโฆษณาต่อไปบน Facebook
.
ส่วนฝั่ง Google ก็คล้ายคลึงกัน เราต้องนำ Code จาก Google Adword ไปฝังติดไว้ที่เว็บไซต์ เพื่อรอคนที่เข้าเว็บไซต์เข้ามา เราก็จะสามารถเก็บฐานข้อมูลของผู้ที่เข้ามาเว็บไซต์มาใช้สำหรับการทำโฆษณาได้
.
เราจะเรียกการโฆษณาด้วยวิธีการแบบนี้ว่า Re-Marketing
.
ถ้าอ่านมาถึงจุดนี้แล้ว ใครยังนึกไม่ออก มองภาพไม่เห็น ก็อยากให้ลองนึกถึงเว็บ E-Commerce อย่าง LAZADA ที่ใช้กลยุทธ์นี้มาตลอด และค่อนข้างได้ผลดีมากด้วย (เคยเจอใช่ไหม ที่เข้าเว็บไซต์ดูสินค้า แล้วอยู่ๆ สินค้านั้นๆ ก็ตามมาแสดงให้เห็นบน Facebook และบนเว็บไซต์บางเว็บ)

อันสุดท้ายที่อยากจะแนะนำวันนี้ คือ LINE@
อันนี้จะง่ายในมุมของเราในฐานะเจ้าของแบรนด์ เพราะไม่ต้องไปติด Code อะไรให้วุ่นวายเหมือนกับวิธีทั้งสองที่ผ่านมา
.
เพราะเพียงลูกค้าแอดมาเป็นเพื่อนกับ LINE@ ของเรา ก็เรียบร้อยแล้ว ถือว่าอยู่ในฐานข้อมูลที่เราสามารถที่จะสื่อสารได้แล้ว
.
เพียงแต่ในมุมของลูกค้า ก็จะมีเปอร์เซ็นในการเข้ามาเป็นเพื่อนนั้นอาจจะต้องอาศัยการจูงใจมากกว่าปกติหน่อย เพราะสองวิธีก่อนหน้านี้ ลูกค้าเพียงแค่มีปฏิสัมพันธ์อะไรบางอย่าง หรือแค่ดูหน้าเว็บเฉยๆ เราก็สามารถเก็บข้อมูลได้แล้ว (แต่ต้องฝัง Code นะ)
.
แต่ LINE@ ก็มีข้อเด่นตรงที่ว่ามันเป็น App ที่คนนิยมเล่นมากเป็นอันดับต้นๆ และการส่งข้อมูลไปนั้น มันส่งมาเหมือนเป็นเพื่อนคนนึงที่ให้ความรู้สึกว่าใกล้ชิดมากกว่าช่องทางอื่น
.
การสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าบ่อนี้ ก็จะใช้การ Boardcast ไปกับกลุ่มเป้าหมายที่ได้แอดมาเป็นเพื่อนกับ LINE@ แล้วเท่านั้นเอง
.
ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ อีกนะครับ แต่วันนี้ขอเอาเป็นพื้นฐานแค่นี้ไว้ก่อน 
.
ทำได้เท่าที่เล่ามานี่ก็ถือว่าเยี่ยมในระดับนึงละครับ
.
ไว้ครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ

ติดตามความรู้ดีๆ ด้านการสื่อสารการตลาดดิจิทัลได้ที่ LINE@ นินจาการตลาด: @ninjakantalad
หรือคลิกที่นี่เลย

audy

audy

Leave a Replay

Sign up for our Newsletter

ติดตามบทความด้านการตลาดฟรีๆมากมายเพียงกรอกอีเมล์ด้านบนนี้

Shopping Cart
Scroll to Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก