ในปีนี้ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มทำคอนเทนต์กันอย่างเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ Video Marketing ที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นกว่าแพลตฟอร์มอื่น
แม้วิดีโอแพลตฟอร์มเป็นที่นิยม ในหลาย ๆ แบรนด์และธุรกิจเอง ได้ทำคอนเทนต์ลงไปมากมาย เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ขึ้น แต่หนึ่งสิ่งที่เรามักเห็นก็คือการทำคอนเทนต์ที่ตาม ๆ กัน และไม่ได้คำนึงถึงความเหมาะสมของประเภทธุรกิจของตนเองหรือเปล่า
การวางแผนคอนเทนต์ หรือ การทำคอนเทนต์ที่ยังไม่มีความเข้าใจในแบรนด์ของตนเอง เป็นหนึ่งในประเด็นที่ควรถูกพูดถึง ดังนั้นทีมงานนินจาการตลาด อยากชวนคุณมาทำความเข้าใจในการวาง Content Marketing ให้สอดคล้องกับธุรกิจของคุณ
ทั้งนี้จริง ๆ แล้วรูปแบบของธุรกิจมีหลากหลาย แต่วันนี้จะหยิบมารูปแบบหลัก ๆ ที่พบเห็นกันบ่อย ๆ อย่าง B2B และ B2C
ความแตกต่างระหว่างธุรกิจ B2B และ B2C
B2B ย่อมาจาก Business-to-Business ความหมายคือ การทำธุรกิจโดยขายสินค้าหรือบริการ ให้กับลูกค้าที่เป็นองค์กร ไม่ได้ขายสินค้าให้กับบุคคลทั่วไป เช่น บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาด/ด้านกฎหมาย บริษัทเอเจนซี่ อาคารสำนักงานให้เช่า เป็นต้น
B2C ย่อมาจาก Business-to-Consumer หมายถึงการขายสินค้าหรือบริการให้ลูกค้าที่เป็นบุคคลทั่วไป โดยปกตินั้นเราคุ้นชินกับธุรกิจ B2C เพราะเป็นอะไรที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย ยกตัวอย่างธุรกิจประเภทสินค้า เช่น ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านกาแฟ ร้านขายเครื่องดื่ม เป็นต้น ธุรกิจที่ให้บริการ อย่างเช่น ฟิตเนส บริษัททัวร์ อพาร์ทเมนต์
สร้างความเข้าใจ Content Marketing ธุรกิจ B2B
สำหรับคนทำคอนเทนต์สายธุรกิจ B2B ต้องแสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพ สร้างความเชื่อมั่น (Build Authority) เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ธุรกิจมีเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้น และในต่างประเทศได้มีผลสำรวจ จาก marketingprofs ว่า 75% ของบริษัท B2B ใช้คอนเทนต์เป็นเครื่องมือ ในการสร้างความเชื่อมั่น
ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้หมายถึงเขียนแค่หน้า About Us ที่บรรยายความเป็นธุรกิจของคุณลงไปในนั้นแล้วจบไป แต่เป็นการนำเสนอสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวคอนเทนต์ อย่างเช่น วิดีโอ บทความ เอกสารการวิจัยต่าง ๆ บริษัทควรสร้างความประทับใจและ ความน่าเชื่อถือจากสิ่งเหล่านั้น
ซึ่งสินค้าหรือบริการประเภท B2B มีความซับซ้อนมากกว่าธุรกิจประเภท B2C จึงจำเป็นต้องอาศัยการพูดคุยกันระดับหนึ่งก่อน นั่นทำให้ตำแหน่งของ Sales (ฝ่ายขาย) เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการพูดคุยและ นำเสนอสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมให้กับลูกค้า
คอนเทนต์บนโลกออนไลน์ของ B2B นั้นควรที่จะสามารถสร้างคอนแทค หรือการติดต่อให้กับฝ่าย Sales ได้ ดังนั้นการสร้าง Contact เพื่อให้ได้การติดต่อกับลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าเป้าหมายสำคัญของธุรกิจประเภท B2B เป็นการทำคอนเทนต์ เพื่อสร้าง Contact หรือ Lead ของผู้ที่สนใจ เป็นการทำคอนเทนต์ที่สามารถทำเพื่อจบการขายด้วยเช่นกัน
สร้างความเข้าใจ Content Marketing ธุรกิจ B2C
แม้ความเป็นมืออาชีพในวงการเป็นเรื่องสำคัญ แต่ยังอาจไม่สำคัญที่สุดในสายธุรกิจประเภท B2C เมื่อผู้บริโภคมีปัจจัยที่หลากหลาย อย่างเช่น อารมณ์ รสนิยม หรือกระทั่งโปรโมชั่น อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกปลอดภัย และความต้องการข้อมูล ก็ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจ ในการทำคอนเทนต์ของ B2C สอดแทรกสาระความรู้ได้ นอกจากสร้างคอนเทนต์ที่สนุกสนานเพียงอย่างเดี
การสร้าง Lead Generation อาจจะไม่ความจำเป็นเท่ากันมากนักในสายธุรกิจประเภทของ B2C อย่างสินค้าอุปโภคบริโภค การสร้าง Brand Awareness อาจจะเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ดังนั้นการทำคอนเทนต์ในสาย B2C ต้องศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าเป็นหลัก เพื่อสามารถทำคอนเทนต์ได้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ตามที่ต้องการ
และก็เป็นเรื่องราวบางส่วนในการทำคอนเทนต์ระหว่างธุรกิจประเภท B2B และ B2C นั้นมีความแตกต่างกัน อย่างช่องทางการกระจายของโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม เช่น ผู้บริโภคที่เน้นไป Facebook, LINE, Instagram, Twitter ในขณะที่ช่องการติดต่อลูกค้าธุรกิจอาจเน้นไป Email Marketing เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเรื่องของประเภทความถี่ในการทำคอนเทนต์ อย่างเช่น ธุรกิจสาย B2C ควรมีความถี่ในการลงคอนเทนต์ที่มากกว่า B2B เรื่องนำเสียง และสไตล์คอนเทนต์ที่ความชัดเจน เป็นต้น
ทั้งนี้เราควรเริ่มศึกษา วางแผน และลงมือปฏิบัติให้เหมาะสมกับสายงานของคุณ เพื่อสามารถเพิ่มยอดขาย หรือ เป็นการแผนวางแผนมุ่งสู่เป้าหมายที่วางไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณให้ได้มากที่สุด นั่นเอง