เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเวลาที่เราไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า หรือ เเม้กระทั่งในไลฟ์สดขายของ มักจะชอบเปิดเพลง มันเป็นเพราะเจ้าของร้านหรือพนักงานชอบฟังเพลงหรือเปล่า? เเต่เเท้จริงเเล้ว มันไม่ใช่เเค่นั้น มันลึกซึ้งกว่าที่คุณคิดไว้มาก…
มีงานวิจัยกล่าวไว้ว่า “เสียงดนตรี” มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเเละยอดขายสินค้าเป็นอย่างมาก เเละเเต่ละเสียง จะสามารถกระตุ้นพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เเตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับ…
1. ระดับเสียงมีผลต่อการใช้เวลาซื้อของในร้าน
เสียงเพลงที่ดังเกินไปจะส่งผลให้ลูกค้าเกิดความรำคาญหรืออึดอัดเอานะครับ ทำให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านได้น้อยลง เเต่ถ้าเสียงเพลงเปิดในระดับที่พอดี เบา ๆ ลูกค้ามักใช้เวลาอยู่ในร้านได้นานขึ้น
2. จังหวะเพลงสามารถกระตุ้นการตอบสนองของคนเราได้
ในช่วงทศรรษที่ 1980 Ronald E. Milliman ศาสตราจารย์ด้านการตลาด ได้ทำการสำรวจเเละพบว่า ร้านที่เปิดเพลงเร็ว ทำให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านค้าได้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ เเละซื้อของได้น้อยลง เพราะจังหวะที่เร็วเเละเร่งรีบ ทำให้ลูกค้ารู้สึกเร่งรีบในการซื้อของตามไปด้วย
.
เมื่อเทียบกับ ร้านที่เปิดเพลงช้า ลูกค้าจะใช้เวลาอยู่ในร้านได้นานกว่า เเละซื้อของได้มากกว่า เพราะเพลงช้าทำให้ลูกค้ารู้สึกมีเวลาในการตัดสินใจซื้อของมากยิ่งขึ้น ทำให้ยอดขายสูงกว่าร้านที่เปิดเพลงเร็วถึง 38 %
.
เเละอีกกรณีหนึ่ง ที่เราพบเจอกันอยู่ทุกวันในปัจจุบัน นั่นคือ การเคาะกระดิ่ง ในไลฟ์สดขายของ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า กระดิ่งเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้คนตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น เหมือนกับการเเข่งขันกีฬา หรือตอนเวลาใกล้จะหมดเวลาทำข้อสอบ เหมือนเป็นการเร่งให้คนไวขึ้นก่อนที่จะหมดเวลา หรือให้ลูกค้ารีบตัดสินใจซื้อก่อนคนอื่นเพราะถ้าช้าอาจจะหมด
3. ประเภทของเพลงต้องเหมาะกับสินค้าที่ขาย
การเลือกเพลงนั้นสำคัญมาก ร้านค้าควรเลือกเพลงให้ลูกค้าได้จินตนาการหรือคล้อยตามไปกับสิ่งของในร้านของเรา หรืออาจเลือกใช้เพลงให้เข้ากับสภาพแวดล้อมหรือบรรยากาศภายในร้าน ซึ่งในปี 1993มีงานวิจัย ของ Frances Rauscher เกี่ยวกับการทดลอง เปิดเพลงคลาสสิกเทียบกับเพลงป็อปในร้านไวน์ ปรากฏว่า เมื่อเปิดดนตรีคลาสสิกตอนที่ลูกค้ากำลังเลือกซื้อไวน์อยู่นั้น ส่งผลให้ลูกค้า เลือกซื้อไวน์ราคาแพงมากกว่าตอนที่เปิดเพลงป็อป เพราะเพลงคลาสสิกจะเพิ่มประสบการณ์การซื้อของลูกค้าให้ได้รู้สึกเหมือนซื้อไวน์ระดับพรีเมี่ยมอยู่
เห็นไหมครับว่า Music Marketing มีผลต่อพฤติกรรมการซื้อของลูกค้ามากเเค่ไหน ถ้ารู้อย่างนี้เเล้ว ใครที่มีธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร หรือเป็นพ่อค้าเเม่ค้าที่ไลฟ์สดขายของ ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะครับ มันจะช่วยสร้างเอกลักษณ์ความเป็นเเบรนด์ของคุณ เเละยังช่วยบรรยากาศในร้านค้าของคุณให้น่าชมน่าซื้อขึ้นอีก เเละที่สำคัญ มันจะทำให้ธุรกิจของคุณมียอดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างเเน่นอน