จากการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ของ Disney + Hotstar เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำให้วงการสตรีมมิ่งในเมืองไทยต้องสั่นสะเทือน ด้วยค่าบริการที่เเสนถูก จนไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง (มีคลิปด้านล่างนะครับ)
Disney + Hotstar คิดค่าสมาชิกปีละ 799 บาท/ ปี (เฉลี่ยตกเดือนละ 67 บาท)
.
เเต่ถ้าคุณใช้เครือข่าย AIS ทาง Disney + Hotstar คิดค่าบริการเพียง 35 บาท/ เดือนเท่านั้น
.
เมื่อทาง Disney + Hotstar เปิดตัวมาเเบบนี้ ก็ทำเอาตลาดสตรีมมิ่งหนาว ๆ ร้อน ๆ กันเลยทีเดียว เพราะด้วยความเป็น Disney ที่เป็นขวัญใจชาวไทยหลาย ๆ คน เปิดตัวมาด้วยราคาที่เเสนถูก ก็อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนลังเลเเละเริ่มที่จะหันไปสนใจ Disney + Hotstar เเทน
.
กลยุทธ์การตั้งราคาเเบบนี้เขาเรืยกว่าอะไร ?
กลยุทธ์แบบนี้เขาเรียกกันว่า การตั้งราคาเจาะตลาด หรือ Penetration Pricing โดยใช้วิธีตั้งราคาสินค้าหรือบริการด้วยราคาที่ต่ำในช่วงแรก ที่สินค้าเปิดตัวเข้าสู่ตลาด เพื่อหวังใช้ราคาที่ต่ำดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหญ่ ๆ ให้หันมาสนใจสินค้าของเขา
แล้วการตั้งราคาแบบ Penetration Pricing จะใช้ในกรณีไหนบ้าง?
จะใช้ได้กับสินค้าหรือบริการที่พึ่งเข้าสู่ตลาด ซึ่งไม่จำเป็นว่า เจ้าของเเบรนด์นั้นจะต้องเป็น
เเบรนด์ที่พึ่งเปิดตัว อาจจะเป็นเเบรนด์ที่เรารู้จักกันดี เเต่กำลังจะเเตกไลน์สินค้าตัวใหม่ก็ได้ครับ
เเต่เเทนที่จะตั้งราคาเท่ากับเจ้าที่ครองตลาดอยู่ ก็อาจจะยากที่จะทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจมาหาเรา เลยต้องตั้งราคาที่ถูกกว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาสนใจ
อย่างกรณี Disney เป็นค่ายที่ใคร ๆ ก็รู้จักเเละคุ้นเคยกับผลงานของ Disney กันดี เเต่นี่ก็เป็นครั้งเเรกที่ Disney + Hotstar เข้ามาลุยตลาดสตรีมมิ่งไทย เลยหวังอยากให้ผู้ชมในไทยเปลี่ยนใจจากสตรีมมิ่งอื่น มาหา Disney + Hotstar จึงต้องสู้ด้วยการตั้งราคาที่ต่ำกว่า เพื่อที่เห็นเเล้วจะได้ไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนใจเเละกดสมัครเลย
.
ข้อดีของการใช้กลยุทธ์นี้ของ Disney + Hotstar คือการสร้างฐานลูกค้าใหม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เเต่ถ้าคุณลองมองในระบะยาว กลยุทธ์อาจไม่ตอบโจทย์มากนัก ดังนั้น หลาย ๆ เเบรนด์จึงเลือกตั้งราคาเเบบนี้ไว้เเค่ช่วงเเรก ๆ เท่านั้น
เเล้วทำไม Disney + Hotstar ถึงเลือกจับมือกับ AIS ?
ก็เพราะว่า AIS เป็นผู้นำเครือข่ายเเละบริการดิจิทัลอันดับหนึ่งในไทยไงครับ ที่มีลูกค้ามากกว่า 42.7 ล้านหมายเลข การที่ Disney + Hotstar จับมือกับค่ายยักษ์ใหญ่ในไทยขนาดนี้ ก็เหมือนเป็นการเปิดทางให้ Disney + Hotstar เข้ามาเติบโตในไทยได้ง่ายขึ้น
.
ส่วน AIS เองก็น่าจะได้ประโยชน์ไม่น้อยเลย เพราะ เป็นโอเปอร์เรเตอร์รายเดียวในขณะนี้ ที่สามารถออกแพ็กเกจแบบรายเดือนได้ ซึ่งเฉลี่ยแล้วยังถูกกว่า จ่ายเป็นรายปี ดังนั้น เป็นไปได้สูงว่า จะมีแฟน ๆ Disney จำนวนไม่น้อย ที่จะหันมาใช้บริการ AIS
สำหรับเนื้อหาแบบละเอียดพร้อมภาพประกอบ นินจาการตลาดทำคลิปไว้ให้ชมแล้วนะครับ กดชมได้เลย แล้วก็ตามไป Subscribe กันด้วยนะ ที่ YouTube Channel ของ นินจาการตลาด
จากนี้คงต้องรอลุ้นกันนะครับว่า Disney + Hotstar จะโด่งดังและไปได้ไกลเเค่ไหนในไทย เเต่ที่เเน่ ๆ กระเเสตอนเปิดตัวนี่เเรงดีไม่มีตกเลยครับ บอกเลยว่าสตรีมมิ่งเจ้าอื่นมีหนาวกันบ้างละครับ
.
ส่วน AIS เองก็น่าจะได้ประโยชน์ไม่น้อยเลย เพราะ เป็นโอเปอร์เรเตอร์รายเดียวในขณะนี้ ที่สามารถออกแพ็กเกจแบบรายเดือนได้ ซึ่งเฉลี่ยแล้วยังถูกกว่า จ่ายเป็นรายปี ดังนั้น เป็นไปได้สูงว่า จะมีแฟน ๆ Disney จำนวนไม่น้อย ที่จะหันมาใช้บริการ AIS
สามารถติดตามเนื้อหาสุด Exclusive ของนินจาการตลาดที่ไม่ได้ลงที่ไหนและคอร์สเรียนฟรี ให้พิเศษเฉพาะใน Facebook กลุ่มปิด “Digital Media Planning 2020” คลิกไปขอเข้าร่วมได้เลย มีอัปเดตเนื้อหาอยู่ตลอด
และหากมีคำถามอยากให้ช่วยเหลือด้านการสื่อสารการตลาดดิจิทัล ทั้งเรื่องเครื่องมือ (Media), เนื้อหา (Content) และ กลยุทธ์ (Strategy) สามารถเข้าไปทักสอบถาม อ.ออดี้ และผู้รู้มากมายใน “หมู่บ้านนินจา” LINE OpenChat
