เราคงรู้จักกันดีสำหรับโปรแกรม Adblock ที่ไว้ใช้บล็อกป้องกันโฆษณาไม่ให้มากวนใจบนหน้าจอคอมและโทรศัพท์มือถือ ซึ่งแน่นอนแหละว่ามันมีประโยชน์กับผู้ใช้งานทั่วไป เพราะคอยปิดกั้นโฆษณาทุกแพลตฟอร์มอย่าง Google Ads, Facebook Ads ไปยัน Pop-Up ต่างๆ ที่เด้งขึ้นมาทั้งหลาย
แต่สำหรับนักการตลาดและแบรนด์ทั้งหลาย Adblock ทำให้การทำงานการตลาดยากขึ้นเข้าไปอีก เพราะโฆษณาที่ทำไว้จะไม่ปรากฎให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นเลยสักแอะ ดังนั้นแคมเปญที่เราอุตส่าห์ตั้งใจสร้างขึ้นมา จะไม่มีทางเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครบ 100% แน่นอน
.
แล้วทำไมคนถึงแห่กันมาใช้ Adblock กันมากขึ้น อินไซต์อันดับ 1 เรื่องนี้เลยคือ รำคาญ เบื่อที่จะต้องเห็นโฆษณาเด้งขึ้นมาซ้ำซาก หรือบ่อยครั้งในเวลาเข้าเว็บไซต์ มีคนถึง 47% ใช้โปรแกรม Adblock และที่น่าตกใจคือคนภูมิภาคอาเซี่ยนนี่แหละที่มารวมใจใช้ Adblock เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออกครับ ทางผู้เชี่ยวชาญของ Forbes Agency ได้หาทางแก้ในเรื่องนี้ โดยพยายามใช้เทคนิคที่ถูกต้องเข้ามาพัฒนาโฆษณาและข้อมูลแคมเปญ เพื่อจะให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยไม่สร้างความรำคาญหรือรบกวนมากเกินไป ดังต่อไปนี้ครับ
1. สร้างความเชื่อมโยงมากกว่าเน้นแค่เพียงการเข้าถึง
.
Adblock ส่งผลเสียต่อการเข้าถึงแคมเปญ ดังนั้นคนทำโฆษณาควรประเมินตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวแคมเปญเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง ให้โฟกัสที่ความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงมากกว่าเน้นการเข้าถึงเยอะๆ เป็นอันดับแรกจะดีที่สุด อย่าเอาแต่ยัดเยียดแอดให้เห็นบ่อยครั้งจนเกิดเป็นความรำคาญ
2. สร้างคอนเทนต์ดั้งเดิมและใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่ดึงดูดใจ
.
Adblock มีส่วนสำคัญในการขัดขวาง Journey ดังนั้นแบรนด์ต้องจัดเตรียมคำตอบสำหรับปัญหาของลูกค้า ด้วยการสร้างคอนเทนต์แบบดั้งเดิม แล้วสร้าง Engagement จากอินฟลูเอนเซอร์ที่กลุ่มลูกค้าติดตามอยู่ โดยอาจจะเป็นการรีวิวหรือสอนการใช้งานสินค้า เสมือนได้คำแนะนำจากเพื่อนที่เชื่อถือได้
3. สร้างโฆษณาให้แนบเนียนไปกับคอนเทนต์สินค้า
.
Adblock มีผลกับ Performance ของแคมเปญโฆษณา ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายจะไม่เห็นโฆษณาเลย แนวทางรับมือเรื่องนี้คือการทำโฆษณาที่เป็นคอนเทนต์ ที่อ่านแล้วลูกค้ารู้สึกได้ความรู้ได้ประโยชน์ เสมือนว่าได้อ่านบทความดีๆ สักเรื่อง ไม่ใช่ Hard Sale ขายกันแบบตรงๆ ที่เสี่ยงกับการถูกปฎิเสธแบรนด์ในทันที
4. ใช้ช่องทางการโฆษณาใหม่ๆ ที่ไม่รบกวนเกินไป
.
Adblock นับเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดยุคใหม่ ที่โฆษณาของแบรนด์ต้องไม่รบกวนใครๆ ซึ่งการทำโฆษณามีได้หลายวิธี อย่างการทำ Shorts, Reels, LINE Voom ไปจนถึงการไลฟ์สตรีมสด ก็ช่วยให้เราเลี่ยง Adblock ได้ ถือเป็นการขยายช่องทางการสื่อสารให้กว้างและครอบคลุมกว่าเดิม
5. สร้างโฆษณาให้ตรงกับความสนใจกลุ่มเป้าหมาย
Adblock ได้รับความนิยม ก็เพราะคนรู้สึกว่าโฆษณาสร้างความน่ารำคาญและรบกวนชีวิต ดังนั้นโฆษณาที่เราสร้างขึ้นต้องเกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายจริงๆ และอย่าพยายามยิงโฆษณาถี่จนเกินไป แล้วผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจะตามมา คนจะรำคาญแอดของเราน้อยลงไปเอง
หากจะให้สรุปกลยุทธ์ทั้งหมด คงต้องบอกว่าได้ว่าเราควรทำการตลาดแบบ Publisher (คนทำคอนเทนต์ที่มีคุณค่า) นั่นคือเนื้อหาโฆษณาต้องได้ประโยชน์กับคนอ่าน อย่างน้อยก็ต้องได้ความรู้ กลุ่มเป้าหมายถึงจะเปิดใจยอมรับ ไม่มองเป็นแอดขยะที่เน้นแต่การขาย
.
ดังนั้นถ้าโฆษณาของเรานึกถึงความต้องการของลูกค้า สร้างคอนเทนต์เพื่อแก้ปัญหาหรือตอบโจทย์ลูกค้า ยังไง Adblock ก็บล็อกคุณไม่ได้ทั้ง 100% แน่นอนครับผม
แถมให้อีก Solution หนึ่งที่หลายคนมองข้าม แต่หลายธุรกิจใช้ได้ผลออกมาดีมาก ๆ เรากำลังพูดถึง LINE OA ที่ช่วยให้เราเก็บ Data ของลูกค้าเก่าได้ และเมื่อเราเอามา Retarget ยิงโฆษณาซ้ำก็ได้ หรือใช้วิธีการแบบที่ไม่ใช่การยิงโฆษณา
.
ความหมายคือ วางกลยุทธ์ให้เกิดการเพิ่มฐานเพื่อนผู้ติดตาม แล้วใช้ฟีเจอร์บน LINE OA มาช่วยสื่อสารแบบ >>เหมาะกับกลุ่ม >>>เหมาะเนื้อหา >>>>เหมาะกับเวลา ด้วยการบรอดแคสต์เฉพาะกลุ่มเป้าหมาย และการใช้ Step Message
.
ต่อให้ต้นทุนต่อการคลิก CPC มาสูงแค่ไหนก็ตาม มันก็อาจจะหมดความสำคัญไป เพราะเกิดการสร้างการซื้อซ้ำ ในรูปแบบ LTV: Live Time Value ได้คุ้มค่าแล้วคุ้มค่าอีกยิ่งทำให้ต้นทุน CPC (ต้นทุนต่อการคลิก) มีราคาถูกลงไปได้อีกด้วยครับ
.
ใครอ่านเรื่องนี้จบ คงถึงเวลาแล้วที่เราต้องปรับกลยุทธ์การทำโฆษณา คนที่เน้นขายอย่างเดียวต้องพลิกแพลงให้คอนเทนต์มีประโยชน์กับลูกค้าก่อน พอลูกค้าพอใจค่อยขายทีหลังก็ไม่สายนะครับ