ทุกวันนี้มนุษย์ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง การช้อปปิ้งออนไลน์จึงกลายมาเป็นเรื่องปกติของคนในยุคปัจจุบันไปซะแล้ว มีร้านค้าออนไลน์เกิดขึ้นมาอย่างมากมายในขณะเดียวกันอัตราการเติบโตของธุรกิจออนไลน์พุ่งสูงขึ้นอย่างเป็นหลายเท่าตัว
เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการขายของออนไลน์ นั้นกลายเป็นเทรนด์ที่สร้างความท้าทายให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ที่ไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง และของพันธมิตรกับผู้ค้าปลีกที่เลือกช่องทางออนไลน์ มักประสบปัญหาเรื่องของการกำหนดกลุ่มลูกค้าให้เหมาะสมผ่านกลุ่มคนที่มีความสนใจ และสิ่งที่เกี่ยวข้องคล้าย ๆ กัน ดังนั้นโฆษณาแบบ Collaborative Ads จึงเป็นเครื่องมือที่ดีในการทำโฆษณาระหว่างแบรนด์ (LAZADA, Shopee) กับผู้ค้าปลีก เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย กระตุ้นการสั่งซื้อ และสร้างการรับรู้ (Brand Awareness)
Collaborative Ads เป็นเครื่องมือหนึ่งบน Facebook ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์อีคอมเมิร์ซ (LAZADA, Shopee) ผู้ค้าปลีกที่ไม่มีเว็บไซต์ เป็นของตัวเอง จึงจำเป็นต้องเลือกการยิงโฆษณา ดังกล่าว เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อของให้จบเพียงแค่แอปพลิเคชันเดียวโดยไม่จำเป็นต้องออกจาก Facebook
ทั้งนี้ยังเป็นเครื่องมือที่มีความซับซ้อนต่ำในการซื้อสินค้าออนไลน์ โดยจะเป็นผู้ค้าปลีกที่ทำการตั้งค่าโฆษณาแบบไดนามิค (Dynamic ADS) และสร้างแคตตาลอกสินค้า เพื่อจัดแบ่งแยกเป็นหมวดหมู่เป็นแบรนด์เอาไว้ เมื่อมีการแบ่งปันกลุ่มสินค้าจากแคตตาลอก แบรนด์จะสามารถเข้าถึงเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ ผ่านการแสดงโฆษณาซึ่งดำเนินอยู่ในกลุ่มผู้ค้าปลีกเท่านั้น
เมื่อลูกค้าทำการกด Collaborative Ads ระบบก็จะนำเข้าสู่ “เลือกซื้อเลย” เมื่อทำการกดปุ่ม “เลือกซื้อเลย” ระบบก็จะพาไปยังหน้าเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชันของผู้ค้าปลีก (LAZADA, Shopee) และสามารถสั่งซื้อได้
ประโยชน์ของ Collaborative Ads
- การทำโฆษณาแบบนี้นั้น ก็มีประโยชน์เหมือนกันทั้งในเรื่องของ
- สามารถวิเคราะห์ และวัดประสิทธิภาพการเพิ่มโอกาสทางการขายได้อย่างแม่นยำ
- สร้างโอกาสให้เกิดจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้มากยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มประมาณการเข้าถึงและขยายขอบเขตการมองเห็นของกลุ่มลูกค้า
- เข้าถึงรายงานของผู้ประกอบการได้แบบเรียลไทม์ ในทุกแคมเปญ
- เพิ่มยอดขายของแบรนด์ต่าง ๆ และเป็นที่ยอมรับมากขึ้น
- ลดค่ายใช้จ่ายในการปรับปรุงเว็บไซต์