มีใครในทีนี้ ไม่รู้จัก กูลิโกะ บ้างครับ? (คลิป)
.
ขนมระดับตำนาน ที่เกิดมาครั้งนึงต้องเคยลอง
ขอบคุณภาพจาก https://www.glico.com/th/about/history/
สารพัดขนมมากมาย ที่เติบโตมาพร้อมกับเราในวัยเด็ก จนถึงในตอนนี้ เราเริ่มจะแก่ละ มันก็ยังอยู่ตรงนี้ไม่หายไปไหน
.
อย่าง ขนมกรอบแบบแท่ง เพรทซ์ (Pretz),โคลลอน (Collon), แอลมอนด์ ฟรายด์ (Almond Fried), และขนมเวเฟอร์โคนกรุบกรอบ ใจแอนท์ คาปุลิโกะ (Giant Caplico)
.
ซึ่งขนมเหล่านี้ ล้วนอยู่ภายใต้บริษัท กูลิโกะ หรือ Ezaki Glico ทั้งสิ้น โดย Ezaki Glico มีมูลค่าบริษัทกว่า 82,000 ล้านบาท และดำเนินธุรกิจใน 30 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งอเมริกาเหนือ, เอเชียแปซิฟิก และยุโรป
ขอบคุณภาพจาก https://www.glico.com/th/about/history/
แต่กว่าจะกลายมาเป็นบริษัทขนมยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ รู้ไหมว่า อาณาจักรขนมของ กูลิโกะ
ได้รับแรงบันดาลใจ และมีจุดเริ่มต้นมาจาก “น้ำซุปที่ต้มหอยนางรม” !!
.
แล้ว หอยนางรม กับ ขนมกูลิโกะ มันเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร ?
.
เรื่องนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1919 ที่ในตอนนั้น คุณริอิจิ เอซากิ (Riichi Ezaki) ได้อ่านหนังสือพิมพ์ แล้วไปเจอข่าวว่า Glycogen ที่สะสมอยู่ในหอยนางรม มีสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
.
เขาจึงลองไปซื้อหอยนางรมจากชาวประมง แล้วนำไปต้มน้ำ เพื่อสกัด Glycogen ออกมา คงอยากเอามาลองทานดู ประจวบเหมาะกับเวลานั้น ลูกชายของเขากำลังป่วยอยู่พอดี คุณริอิจิ เลยถือโอกาสเอาน้ำซุปที่ต้มหอยนางรม ซึ่งอุดมไปด้วย Glycogen ให้ลูกชายดื่ม
.
ปรากฏว่า…ลูกชายของเขาหายป่วยจริง!
ขอบคุณภาพจาก https://www.glico.com/th/about/history/
คุณริอิจิ จึงเกิดไอเดียสุดสร้างสรรค์ขึ้นมา นั่นคือการนำ Glycogen มาเป็นส่วนผสมในการทำขนมขาย เพื่อให้เด็กญี่ปุ่น ได้มีโอกาสกินเหมือนลูกชายของเขาบ้าง
.
หลังจากนั้น เขาก็ได้เริ่มทำ เริ่มคิดค้นและสร้างขนมเสริมสุขภาพขึ้นมา และในที่สุด ขนมตัวแรกของเขาก็ได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1921 ในชื่อว่า “Glico Caramel” ขนมคาราเมลรูปหัวใจ ที่มีแพ็กเกจจิงสีแดง เป็นรูปนักวิ่งกำลังยกมือสองข้างวิ่งเข้าเส้นชัย
.
แล้วก็เริ่มไปทดลองวางขาย ก่อนจะเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการในปีต่อมา โดยวางขายในห้างสรรพสินค้ามิตสึโคชิ ซึ่งเป็นห้างเก่าแก่ในโอซากะ พร้อมกับจัดตั้งเป็นบริษัท Ezaki Glico ขึ้น
.
ซึ่งชื่อ Ezaki Glico มาจากนามสกุลของคุณริอิจิ คือ เอซากิ (Ezaki)
บวกกับ Glico ที่ย่อมาจากคำว่า ไกลโคเจน (Glycogen) นั่นเอง
.
ช่วงแรก ๆ Glico Caramel ค่อนข้างจะเป็นสินค้าที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน จึงทำให้หลาย ๆ คนในตอนนั้นไม่กล้าซื้อกิน
แต่…บริษัทก็ไม่ยอมแพ้ครับ พยายามขยายช่องทางการตลาด และปรับปรุงรสชาติอยู่ตลอดเวลา
ทำให้ในที่สุด กูลิโกะ ก็สามารถเอาชนะใจผู้บริโภคจนได้
.
หลังจากนั้น กูลิโกะ ก็ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งสร้างโรงงานใหม่ ทั้งขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
ขอบคุณภาพจาก https://www.glico.com/th/about/history/
โดยในปี ค.ศ. 1932 เป็นปีแรกเลย ที่บุกตลาดต่างประเทศ โดยกูลิโกะ ได้ไปสร้างโรงงานในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน และก็เริ่มบุกตีตลาดจีนแผ่นดินใหญ่
.
ธุรกิจกำลังไปได้สวย…แต่! ก็ต้องมาพังลง เพราะ สงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานของกูลิโกะหลายแห่ง ทั้งในและต่างประเทศ ต่างก็พังทลายลง เพราะโดนระเบิดจากการโจมตีทางอากาศ
.
เหตุการณ์สุดเศร้าในครั้งนี้ คงจะจำฝังใจไปอีกนาน แต่…แม้จะต้องสูญเสียโรงงานและทรัพย์สินไป แต่คุณริอิจิเชื่อว่า ตัวเขาเองยังคงมีทรัพย์สินที่ยังไม่มอดไหม้ไปในช่วงสงคราม และไฟที่ไหนก็ทำลายไม่ได้ด้วย นั่นก็คือ ชื่อของ กูลิโกะ นั่นเอง
.
หลังจากที่สงครามสิ้นสุดลง เขาจึงได้เริ่มต้นสร้างโรงงานขึ้นมาใหม่อีกครั้ง พร้อมกับขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น อัลมอนด์ ช็อกโกแลต, เพรทซ์, ไจแอนท์ โคน และป๊อกกี้ ตามลำดับ
.
ทำให้ธุรกิจของ กูลิโกะ ค่อย ๆ ฟื้นตัว และเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบัน กูลิโกะ มีสำนักงานตั้งอยู่ 18 แห่ง ใน 12 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลีใต้, ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และฝรั่งเศส
.
และนอกจากผลิตภัณฑ์ประเภทขนมแล้ว บริษัทยังขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์ไอศกรีม, เครื่องดื่มนม/โยเกิร์ต, ขนมตะวันตก, นมผง, อาหารแปรรูป, ธุรกิจเสริมสุขภาพ, ธุรกิจร้านค้าสำนักงาน, ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจวัตถุดิบอาหารอีกด้วย
.
ในส่วนของประเทศไทยเอง กูลิโกะ ได้เข้ามาจัดตั้งบริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970
โดย กูลิโกะ มีโรงงานในประเทศไทยด้วยกันอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานบางกะดี ที่สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จ.ปทุมธานี และโรงงานรังสิต ที่ ต.คลองหนึ่ง จ.ปทุมธานี
.
สรุปแล้ว กูลิโกะ บริษัทขนมในตำนานนี้ เกิดมาจากความช่างสังเกต และความอยากรู้อยากเห็น ของคุณริอิจิ เอซากิล้วน ๆ ที่สนใจว่า Glycogen ที่สะสมอยู่ในหอยนางรม มีประโยชน์จริงหรือไม่?
.
และพอได้รู้ถึงผลลัพธ์แล้ว เขาก็รีบคว้าโอกาสทางธุรกิจทันที ด้วยการนำความรู้สึก ที่อยากจะส่งต่อและแบ่งปันคุณค่า หรือประโยชน์นั้น ๆ ให้กับผู้อื่น เป็นแรงขับเคลื่อนในการทำธุรกิจ
.
สังเกตไหมครับว่า จุดเริ่มต้นของธุรกิจใหญ่ ๆ ในหลาย ๆ แบรนด์นั้นมันจะทำให้เราประหลาดใจอยู่เสมอ
ถึงที่มาที่ไปของมัน แล้วใครมันจะไปคิดว่า จากน้ำซุปต้มหอยนางรมในวันนั้น จะกลายมาเป็น ขนมชื่อดังอย่างกูลิโกะในวันนี้
กูลิโกะ ขนมที่เกิดมาจาก น้ำซุปหอยนางรม!
อ่านกันมาเยอะแล้ว ใครที่อยากดูคลิปเราก็มีให้ แล้วอย่าลืม กด Like กด Share กด Subscibe เป็นกำลังให้เหล่านินจาการตลาดด้วยนะครับ