ถ้าคุณคิดว่าชีวิตของคุณไม่มีหวัง แล้วคงไม่มีวันที่จะลืมตาอ้าปากได้เหมือนคนอื่น ๆ ก็จงหยุด และฟังเรื่องราวของผู้ชายคนนี้ก่อน
เชื่อว่ามันจะทำให้คุณคิดและเปลี่ยนใจที่จะเริ่มต้นสู้ชีวิตใหม่ในวันพรุ่งนี้….
เราเข้าใจว่าในยุคนี้การใช้ชีวิตมันยากเหลือเกินกับการเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างเพื่ออนาคต มันไม่ได้ง่ายเหมือนเมื่อก่อน คู่แข่งก็เยอะ เศรษฐกิจก็ไม่ดี ไหนจะโรคระบาดอีกละ
.
หลาย ๆ คนก็คงกำลังเริ่มอยากหรือกำลังจะหาลู่ทางเปลี่ยนงานใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น หรือบางคนกำลังจะยอมแพ้ แต่อย่าพึ่งครับ
วันนี้ผมเลยอยากนำเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งมาเป็นบทเรียนให้คุณสู้ และไม่ยอมแพ้ เพราะบนโลกนี้ไม่ได้มีแค่คุณที่ลำบากอยู่เพียงคนเดียว
กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ แร็ปเปอร์ชื่อดังของเมืองไทย คนนี้นี่แหละครับ โดยเขาเข้าวงการมานานเกือบ 20 ปีแล้ว โดยเริ่มต้นมาจากการเป็นนักร้องเพลงแร็ปในสังกัด “ก้านคอคลับ” ของ “โจอี้ บอย” ในปี พ.ศ.2545
ก่อนจะมีอัลบั้มต่อมาเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นคือ “สิงห์เหนือ เสือใต้” ในปี 2548 แล้วค่อยๆ ผันตัวมาเป็นเบื้องหลังให้กับศิลปินคนอื่นบ้าง ร่วม Featuring กับศิลปินดัง ๆ เช่น ลานนา คัมมินส์ (ในเพลง ยินดีปีระกา) สแตมป์ อภิวัชร์ (ในเพลงราตรีสวัสดิ์) season five (ในเพลง พูดไม่คิด) อีกทั้งยังเป็นเบื้องหลังแต่งเพลงให้กับศิลปิน, โฆษณา, ละคร, ภาพยนตร์ อีกมาก
.
ก่อนจะมาอยู่ค่ายเพลง What The Duck ในปี 2561 และมาออกอัลบั้มในนาม F.Hero เรียกได้ว่าเส้นทางในวงการเพลงกับพุ่งแรงเลยทีเดียว เป็นอีกคนที่น่าจับตามองมาก ๆ ได้ร่วมงานกับศิลปินคุณภาพมากมาย จนกลายมาเป็นที่รู้จักอย่าง “กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่”เหมือนในทุกวันนี้
แต่กว่าที่เขาจะมาประสบความสำเร็จอย่างในทุกวันนี้ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนะครับ เรียกได้รันทดแบบสุด ๆ เลยดีกว่า เขาเริ่มทำเพลง แต่งเพลงตั้งแต่ตอนอายุ 18-19 ปี ชีวิตในช่วงนั้นถือลำบากหนักมาก
.
ไม่มีแม้กระทั่งเงินกินข้าว เขามาอยู่กรุงเทพฯ ทั้งที่ใจเขาไม่ชอบและไม่อยากอยู่เลยแต่ต้น แต่เพราะคำแนะนำของครูสอนคณิตศาสตร์คนหนึ่งที่บอกว่า
“กรุงเทพฯ จะสอนความเป็นผู้นำครอบครัวให้เธอ”
เขาก็จำเป็นต้องมุ่งหน้ามาที่นี่
.
จนกระทั่งวันหนึ่งเขารู้ว่า โจอี้ บอย ไอดอลในดวงใจของเขา จะมาออกรายการเกมฮอตเพลงฮิต ซึ่งเป็นรายการสด เขาจึงตัดสินใจไปดักเจอโจอี้ บอย ที่ห้องส่งเพื่อไปส่งเดโมเพลงที่เคยแต่งและอัดเสียงไว้ให้กับโจอี้ บอย
.
หลังจากที่ส่งเดโมให้โจอี้ บอย ไปไม่นาน กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ก็ได้รับการติดต่อจาก โจอี้ บอย ให้ขึ้นไปประกวดร้องเพลงแร็พซึ่งก็ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวแร็พเปอร์ และเขาก็เหมือนได้ค้นพบตัวเองแล้วว่าการเรียนนิติศาสตร์นั้นไม่ใช่ทางของเขาอีกต่อไป
.
เขาจึงตัดสินใจเลิกเรียนและหันไปเอาดีกับการเป็นแร็พเปอร์ และเมื่อโจอี้ บอย จะเปิดค่ายเพลงจึงได้ชวน กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ มาเป็นศิลปินในค่ายด้วย แถมโจอี้ บอยยังชวนให้ กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ มาพักอยู่ในอพาร์ทเม้นต์ด้วยกันอีกต่างหาก
ไม่รู้ว่าเขาถูกชะตาอะไรกันขนาดนั้น ว่าไหมครับ? แต่แล้วจุดเปลี่ยนของชีวิตก็มาถึง เมื่อเขาไม่มีเงินจ่ายค่าห้องที่ต้องออกร่วมกับโจอี้ บอย คนละห้าพันบาท และยิ่งไปกว่านั้นเงินกินข้าวเขายังไม่มีเลย
.
สุดท้ายเขาตัดสินใจขโมยเงิน ห้าพันบาทซึ่งเป็นส่วนค่าห้องที่โจอี้ บอย ต้องจ่ายทุกเดือนไปใช้เป็นค่าอยู่ค่ากิน เป็นเวลานานนับปี ซึ่งก็แปลกใจอยู่มากที่เจ้าของหอไม่ทวงเลยสักครั้ง
.
โดยระหว่างนั้นเขาก็ต้องอด ๆ อยาก ๆ ทานข้าวเปล่า ๆ กับซอสปรุงรส ดื่มน้ำประปา วันไหนเงินหมดไม่มีข้าวกิน ก็ต้องดื่มแต่น้ำประทังชีวิตแทน เคยถึงขั้นไปขโมยอาหารแมวมากินหรือแม้กระทั่งต้องแอบทานข้าวเหลือจากจานข้าวที่วางอยู่หน้าห้องอื่น ๆ ที่รอคนมาเก็บจานก็ยังเคยทำ!!!!
.
แต่ที่น่าแปลกมากกว่านั้น คือ พอโจอี้ บอยรู้ความจริง เรื่องเงินเขาไม่ด่าเลยสักนิด แถมยังหาเงินมาจ่ายค่าห้องที่เขาเบี้ยวเจ้าของห้องไปตลอด 1 ปีจนครบ
.
ความละอายใจและรู้สึกผิดที่เขาทำไว้กับโจอี้ บอย มันเลยทำให้เขาไม่กล้าที่อยู่ร่วมห้องกับโจอี้ บอย ได้ต่อไป และขอแยกตัวมาสู้ชีวิตคนเดียว นอนห้องเพื่อนบ้าง ตามป้ายรถเมล์บ้าง ล้มลุกคลุกคลานอยู่นานจนมาประสบความสำเร็จได้อย่างในทุกวันนี้
ในวันที่ชีวิตในวงการกำลังโลดแล่นและไปได้สวย วิกฤตก็กลับมาเยือนเขาอีกรอบ ด้วยโรคระบาดโคโรน่าไวรัสที่แพร่ระบาดอย่างหนัก ในตอนนั้นเป็นช่วงที่โรคพึ่งเริ่มระบาดแรก ๆ เลย งานในวงการหดหายหมด ลูกก็ยังเล็ก ดาราศิลปินหลาย ๆ คนเริ่มหาลู่ทางทำมาหากินอย่างอื่น เปิดธุรกิจบ้างต่าง ๆ นา ๆ
กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ก็เป็นอีกหนึ่งดาราศิลปินที่ผันตัวเองออกมาหยิบจับธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจหยุดชะงัก พักงานกันยาว ๆ หันมาคว้าไม้เสียบหมูปิ้งขายแทนไมค์ชั่วคราว โดยเปิดร้านที่มีชื่อว่า “หมูปิ้งฮีโร่ by หม่าล่าสะโบมั้ย” ทันทีที่เปิดร้านก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี จากบรรดาแฟนคลับที่พากันมาลิ้มลองรสชาติหมูปิ้งสูตรพิเศษของนักร้องในดวงใจคนนี้
.
โดยจุดเริ่มต้นของการขายหมูปิ้งในครั้งนี้ มาจาก คุณจี๋ “เอกพงศ์ ศรีนรศักดิ์ศิลป์” เพื่อนของ กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ที่ได้มีความคิดที่จะขายอาหารประเภทปิ้งย่าง หม่าล่า จึงได้ชวนเพื่อนรักอย่างกอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ มาร่วมลงขันเปิดธุรกิจที่มีชื่อว่า “หม่าล่า สะโบมั้ย” โดยมีทั้งหมด 3 หุ้นส่วนคือคุณจี่กับคุณแนนและกอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่
.
อย่างล่าสุดได้ขยายกิจการด้วยการเปิดแฟรนไชส์ให้ผู้ที่สนใจธุรกิจขายหมูปิ้งไปแล้วกว่า 20 สาขาทั่วประเทศ!!!
ยังไม่หมดเท่านั้นครับ กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ทุ่มทุนลุยธุรกิจใหม่กับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า “ALTEC” พร้อมทั้งพา “ครอบครัวชูใจ” ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์เองเลย แต่ในครั้งนี้ลงทุนไปถึง 7 หลักด้วยกัน เรียกได้ว่าขึ้นแท่นเป็นนักธุรกิจเต็มตัวแล้ว สำหรับแร็พเปอร์หนุ่มชื่อดัง กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ หลัง “หมูปิ้งฮีโร่” อยู่ตัวจนสามารถเปิดขายแฟรนไชส์ได้เรียบร้อย
.
แต่แรงบันดาลใจในการทำธุรกิจครั้งนี้ มาจาก คุณป๊อก มายด์เซ็ต (ป๊อก เซนทรัล) พอเขามาเห็น กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ขายหมูปิ้งก็มาบอกว่า ดีแล้วพี่ คนเราถ้ามีอาชีพเป็นนักร้องอย่าให้มีรายได้มาจากท่อน้ำทางเดียว ต้องให้ทำหลาย ๆ อย่างเข้าไว้
.
เขาก็เลยรู้สึกว่าการทำเครื่องใช้ไฟฟ้ามันก็เป็นท่อน้ำเลี้ยงหนึ่ง สมมุติในอนาคตหมูปิ้งที่ทำอยู่ หมูเกิดติดไวรัสขายไม่ได้ขึ้นมา จะได้หาทางออกได้
อย่างล่าสุดเขาก็ยังทำต่อ ไม่พอแค่นั้นกับก้าวครั้งสำคัญในวงการเพลงของเขา กับการจับมือร่วมกันกับ หลุยส์ ธชา คงคาเขตร และพิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ที่ดังที่สุดในตอนนี้ เปิดค่ายเพลงน้องใหม่ High Cloud Entertainment สร้างสรรค์ผลงานเพลงของศิลปินทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ในสไตล์ T-Pop
.
เขาถือเป็นศิลปินคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาสู่วงการ นักธุรกิจแบบเต็มตัวแล้ว และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมว่าเขาสามารถแก้ไขและปรับตัวกับมันได้อย่างแน่น เพราะดูจากการฝ่าฟันอุปสรรคความลำบากในชีวิตมา บอกเลยผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ
.
ทางนินจาการตลาดก็อยากใจะให้คุณมองเคสของคุณกอล์ฟไว้เป็นตัวอย่าง ที่ไม่ว่าเขาจะเคยอยู่ในจุดที่แย่ที่สุดของชีวิต แต่เขาก็สามารถตะเกียกตะกายขึ้นมาตามฝันจนได้ พอสำเร็จไปอีกขั้น เขาก็ไม่หยุดที่จะพัฒนา หาธุรกิจทำต่อยอด เพื่อความมั่นคงให้กับชีวิตและครอบครัว ยังไงผมเป็นกำลังใจให้ และจะคอยติดตามผลงานเสมอนะครับ