fbpx

จิตวิทยาการตั้งราคา ขายสินค้าชิ้นเดียวกัน ทำไงให้ลูกค้ายอมจ่ายแพงกว่า

Home » จิตวิทยาการตั้งราคา ขายสินค้าชิ้นเดียวกัน ทำไงให้ลูกค้ายอมจ่ายแพงกว่า

จิตวิทยาการตั้งราคา ขายสินค้าชิ้นเดียวกัน ทำไงให้ลูกค้ายอมจ่ายแพงกว่า

จิตวิทยาการตั้งราคา ขายสินค้าชิ้นเดียวกัน ทำไงให้ลูกค้ายอมจ่ายแพงกว่า

หลายคนคงเคยสงสัย ทำไมบางแบรนด์ถึงขายของแพงกว่าคู่แข่งได้ ทั้งที่สินค้าก็คล้ายๆ กัน บางทีเราอาจจะคิดว่า “ก็คงเพราะแบรนด์ดังกว่านั่นแหละ” แต่จริงๆ แล้ว มันมีเทคนิคลับๆ ที่ทำให้ลูกค้ายอมควักกระเป๋าจ่ายแพงขึ้นโดยไม่รู้ตัว วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนี้ให้หายสงสัยกัน

ศาสตราจารย์ด้านการตลาดระดับโลกอย่าง David J. Hardisty, Thomas Allard และ Dale Griffin ทำการศึกษาเรื่องนี้ และค้นพบวิธีที่จะช่วยให้เราเสนอราคาสินค้าที่แพงกว่าโดยที่ลูกค้าเต็มใจซื้อ ซึ่งผมจะมาสรุปให้ฟังแบบเข้าใจง่าย 3 ข้อด้วยกัน รับรองว่าถ้าทำตามนี้ ธุรกิจจะมีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดดแน่นอน

อ่านต่อ
นินจาการตลาด

1. ใช้วิธีการสื่อสารดีกว่าการเปรียบเทียบ

.

ลองนึกภาพตาม เรากำลังจะสมัครเป็นสมาชิก New York Times แบบ Standard ราคา $9.99/เดือน ที่ให้เข้าถึงเว็บและแอปได้ แต่ถ้าจ่ายเพิ่มอีก $7.00/เดือน จะได้เป็นสมาชิกแบบ Premium ที่เข้าถึงได้ทั้งเว็บ แอป นิตยสาร และพอดแคสต์ ทีนี้ถ้าบอกว่า Premium มีราคา $16.99/เดือน คนจะเลือกแค่ 23% เท่านั้น แต่พอบอกว่า “เพิ่มแค่ $7.00/เดือน” ยอดคนเลือกพุ่งขึ้นเป็น 47% เลยทีเดียว

.

แค่เปลี่ยนวิธีพูด ก็ทำให้คนรู้สึกคุ้มค่าขึ้นมาทันที นี่แหละครับคือพลังของการสื่อสาร การบอกส่วนต่างแทนราคาเต็ม ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ากำลังได้อัพเกรดในราคาที่ไม่แพง แทนที่จะรู้สึกว่ากำลังจ่ายแพงขึ้น ลองเอาไปปรับใช้กับธุรกิจ อาจจะเป็นการนำเสนอแพ็คเกจเสริม หรือการอัพเกรดบริการ ก็ช่วยให้ลูกค้าตอบรับดีขึ้น

นินจาการตลาด

2. เปลี่ยนคุณสมบัติให้กลายเป็นเงิน

.

กลยุทธ์นี้เจ๋งมากครับ ลองนึกถึงตอนซื้อหลอดไฟดูนะครับ นอกจากราคาแล้ว เรามักจะดูด้วยว่าประหยัดไฟรึเปล่า ถ้าหลอดไฟบอกว่า “ประหยัดไฟได้ 10 ปี” คนก็จะยอมจ่ายแพงกว่า เพราะเห็นภาพว่าจะประหยัดเงินในระยะยาว นี่คือตัวอย่างของการแปลงคุณสมบัติ (ประหยัดไฟ) ให้เป็นตัวเงินที่ลูกค้าสัมผัสได้

.

วิธีนี้ไม่ใช่แค่กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือรถยนต์นะครับ ธุรกิจอื่นก็ปรับมาใช้ได้ เช่น ร้านอาหารอาจจะบอกว่าเมนูนี้ช่วยประหยัดเวลาทำอาหารได้กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือบริษัทซอฟต์แวร์อาจจะบอกว่าโปรแกรมนี้ช่วยประหยัดเวลาทำงานได้กี่ชั่วโมงต่อเดือน แล้วคำนวณเป็นมูลค่าที่ประหยัดได้ ลูกค้าจะยอมควักกระเป๋าจ่ายแพงขึ้น เพราะเห็นคุณค่าที่จะได้รับชัดเจนขึ้น

นินจาการตลาด

3. ลดราคาแบบซ้อน

.

นี่เป็นเทคนิคสุดฮิตของร้านค้าออนไลน์ แทนที่จะลดราคา 50% ทีเดียว ลองแบ่งเป็นส่วนลด 10% แล้วตามด้วย 40% ผลวิจัยบอกว่าได้ผลดีกว่าเยอะ เพราะลูกค้ารู้สึกได้ส่วนลดหลายต่อ เหมือนกับว่าโชคดีได้ส่วนลดซ้ำๆ เคล็ดลับคือ ให้เรียงส่วนลดจากน้อยไปมาก เช่น “ลด 10% เพิ่มเป็น 40%” จะได้ผลดีกว่าแบบมากไปน้อย ลูกค้าจะรู้สึกว่าได้ส่วนลดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

.

วิธีนี้เวิร์กกับการขายหน้าร้านมากกว่า เพราะออนไลน์ลูกค้าเห็นราคาสุดท้ายก่อนตัดสินใจซื้อ ทำให้ความรู้สึกว่าได้ส่วนลดเยอะๆ หายไป ถ้าเป็นหน้าร้าน อาจจะใช้วิธีติดป้ายส่วนลดทีละชิ้น หรือให้พนักงานขายคอยบอกส่วนลดทีละส่วน แบบนี้จะกระตุ้นลูกค้าว่ากำลังได้ดีลสุดพิเศษ และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

นินจาการตลาด

สุดท้ายนี้ อย่าลืมนะครับว่า “ราคา” มีผลต่อการซื้อ แต่ “การบริการ” ก็สำคัญไม่แพ้กัน ถึงจะใช้กลยุทธ์ไหน ก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของลูกค้าด้วย เพราะความสำเร็จที่แท้จริงไม่ใช่แค่ขายได้เยอะ แต่คือการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำต่างหาก จริงไหมล่ะครับ

ใครที่อ่านเรื่องนี้จบแล้ว ลองแชร์ตัวอย่างที่เคยเจอการตั้งราคาแบบนี้มาสักอย่าง อาจจะเป็นโปรโมชั่นของร้านกาแฟ หรือแพ็คเกจมือถือใช้อยู่ก็ได้ วิธีไหนมาดึงดูดให้เรายอมจ่ายแพงขึ้น แล้วเรารู้สึกยังไงกับวิธีนั้น แชร์ประสบการณ์ของคุณมาเลยครับ อาจเป็นไอเดียที่น่าสนใจสำหรับหลายคน

ติดตามอ่านความรู้ด้านกลยุทธ์การตลาดได้ในบทความครั้งต่อไป
กับ อ.ออดี้ – กิตติชัย ได้ใน Blog ของ นินจาการตลาด ที่นี่…

Ninja Kantalad

Ninja Kantalad

Leave a Replay

Sign up for our Newsletter

ติดตามบทความด้านการตลาดฟรีๆมากมายเพียงกรอกอีเมล์ด้านบนนี้

Shopping Cart
Scroll to Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก