เมื่อไม่นานมานี้ LINE OA เพิ่งจะออกกฏใหม่มาว่าถ้าหากลูกค้าของเราไม่เพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE เราจะไม่สามารถส่งข้อความหาพวกเขาได้หลังจากข้อความสุดท้ายที่คุยกันภายในเวลา 7 วัน !
นั่นทำให้เราทุกคนต้องปรับตัวกันยกใหญ่ จากที่เมื่อก่อนร้านค้าไม่จำเป็นต้องแคร์ลูกค้าว่าจะเพิ่มเพื่อนหรือไม่เพิ่มเพื่อน เพราะยังไงก็สามารถ broadcast หาได้ตลอด วันนี้ LINE ให้ความสำคัญกับ User Expirience มากยิ่งขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามี LINE ประเภทร้านค้าที่ user ไม่ได้เพิ่มเพื่อนนั้น broadcast ไปหาลูกค้าตลอด ทำให้ LINE ต้องแก้ไขกฏใหม่ออกมา ดังนั้นหลังจากนี้จะมีเพียงร้านค้าที่ลูกค้ายอม “กดเพิ่มเพื่อน” เท่านั้น จึงจะสามารถ Broadcast ได้ ( สามารถอ่านเรื่อง Gain Friend Ad ต่อได้กดลิงค์นี้ )
แต่จะทำยังไงให้ลูกค้ายอมกดเพิ่มเพื่อนของเรา ? มันมีอยู่หลายวิธีทั้งยิงโฆษณาเพิ่มเพื่อน หรือ Gain Friend Ad ในไลน์ หรือ การยิงโฆษณาบน Facebook หรือการ Lead มาจาก Social Platform ต่าง ๆ แต่ในคอนเทนต์นี้เราจะมาบอกถึงวิธีการทำคอนเทนต์ยังไง ให้คนยอมกดแอดไลน์เรา ! (ในกรณีที่เราทำคอนเทนต์บน Platform Facebook และดึงเข้า LINE)
Content “Must Know” + Emotion + Call To Action = Impact Content
คอนเทนต์ที่แก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ สร้าง impact ได้ ย่อมสร้างความน่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเรา และสามารถที่จะทำให้ลูกค้ากดเพิ่มเพื่อนของเราได้ แต่การที่จะไปถึงขั้นที่เขาจะยอมกดเพิ่มเพื่อนให้กับเรานั้นจะต้องสามองค์ประกอบ
โดยส่วนประกอบแรก คือ คอนเทนต์นั้น ๆ ต้องเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ใช่คอนเทนต์ประเภทรู้ก็ได้ไม่รู้ก็ได้ แต่คอนเทนต์ที่แก้ปัญหานั้นต้องเป็นคอนเทนต์แบบ “Must Know” หรือคอนเทนต์ที่ต้องรู้เท่านั้น และเมื่อรู้แล้วจะเปลี่ยนชีวิตของลูกค้าได้ดีขึ้นนั่นเอง โดยคอนเทนต์ประเภทนี้การที่จะเขียนให้น่าดึงดูด จะต้องมีการขับเคลื่อนทาง “อารมณ์” ให้กับคอนเทนต์ คอนเทนต์ที่ขับเคลื่อนโดยอารมณ์นั้น จะมีอารมณ์มากมายเช่น ความปลอดภัย ความรู้สึกโดดเด่นจากสังคม ความรู้สึกผิด แต่ในกรณีที่เราอยากจะทำคอนเทนต์ให้คนยอมกดแอดเพิ่มเพื่อนในไลน์ จะใช้อารมณ์หลัก ๆ ประมาณ 3 ตัว นั่นคือ
1. ความเชื่อมั่น
ความเชื่อมั่นเกิดได้สองแบบ คือ ความเชื่อมั่นในสินค้า กับ ความเชื่อมั่นในแบรนด์ การทำให้คนเชื่อมั่นในสินค้าของคุณ จะทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะกดเข้ามาเพื่อพูดคุยและสั่งสินค้ากับคุณ โดยอาจจะไม่มีการเพิ่มเพื่อน เพราะลูกค้าแค่ต้องการมาซื้อสินค้า แต่ถ้าลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์ ลูกค้าจะยอมกดปุ่มเพิ่มเพื่อนทันที โดยความเชื่อมั่นในแบรนด์ลูกค้าจะไม่รู้สึกรำคาญในการ broadcast แต่ละครั้งของเรา
2. ความสงสัย
คนไทยเป็นคนขี้สงสัย ถ้าหากเราทำคอนทเทนต์ที่กระตุกความสงสัยของกลุ่มเป้าหมายของเราได้ และใส่ในเงื่อนไขว่าถ้าอยากรู้ ให้กดเพิ่มเพื่อน เพื่อที่จะได้รู้คำตอบ อารมณ์ความสงสัยในคอนเทนต์ค่อนข้างทำยากนิดหนึ่ง ถ้าคอนเทนต์ของเราไม่สามารถที่จะ Impact กับ Pain ของเขาได้ในระดับที่เขาจะยอมเปลี่ยน Platform ที่กำลังเล่นอยู่เพื่อไปแอดเฟรนด์ใน LINE ได้ คอนเทนต์ของเราต้องมีความเฉพาะเจาะจง และสามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้เขาได้เพื่อให้ชีวิตเขาดีขึ้น หรือคลายทุกข์ให้เขา ในชนิดทีถ้าเลื่อนผ่านจะเสียโอกาสในทันที เช่น “คุณอยากรู้ไหมว่าคุณจะลดค่าใช้จ่ายในธุรกิจจนกำไรเป็นบวกในช่วงวิกฤตินี้ทำยังไง เราจะบอกคุณ และชุดความรู้นี้จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปแบบที่ไม่คาดคิด อยากรู้แอดไลน์มา เดี๋ยวผมจะบอกวิธีแบบละเอียดให้”
3. ความกลัว
ความกลัวในที่นี้ไม่ใช่กลัวในเชิงของการทำการตลาดเชิงรุก หรือการทำ copy(แคปชั่น) เพื่อขายของนะครับ อารมณ์ความกลัวในที่นี้ที่เราอยากให้ใส่ในคอนเทนต์เพื่อให้เขาเพิ่มเพื่อนเราใน LINE นั่นก็คือ ความกลัวที่จะเสียเปรียบ ความกลัวที่จะไม่ได้ของถูก ของดี นั่นเป็นผลมาจากข้อแรก ถ้าคนรู้สึกเชื่อมั่นในแบรนด์ เขาจะกลัวไม่ได้รับข้อเสนอที่ดีที่แบรนด์ให้ และถ้าเราบอกว่าต้องเพิ่มเพื่อนเท่านั้นเพื่อที่เราจะได้ส่งข้อความโปรโมชั่น หรือ ข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับเขา พวกเขาเหล่านั้นจะยอมกดเพิ่มเพื่อนแบบไม่ลังเลเลยแหละ !
4. ความอยากเอาชนะ
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือคอนเทนต์เกมส์กิจกรรมต่าง ๆ ที่หลายแบรนด์ชอบใช้ ลองสังเกตดูว่าการที่เราเล่นกิจกรรมเพื่อการแจกของนั้น เราอยากได้ของ หรือเราแค่อยากชนะแค่นั้น ? มนุษย์เป็นสัตว์ที่อยากเอาชนะ และจะรู้สึกดีเมื่อชนะ ของบางอย่างที่ทางร้านส่งให้ไม่ได้ใหญ่โต หรือบางทีเราอาจจะไม่อยากได้มัน (แต่มีบางส่วนที่ร่วมกิจกรรมเพราะอยากได้จริง ๆ ) แต่การเก็บ Lead ส่วนใหญ่ของแบรนด์ต่าง ๆ มักใช้ของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการตอบแทน ซึ่งเป็นการเล่นกับจิตวิทยาการตลาดได้ดี
และสุดท้ายคือ Call To Action (CTA) หลายคนที่ลืมส่วนนี้ไป เมื่อเรามีคอนเทนต์ที่ดีเยี่ยม แต่เราไม่มี CTA นั่นอาจจะทำให้กลุ่มเป้าหมายของเราอ่าน และก็ผ่านไป ต้องอย่าลืม CTA เด็ดขาด เพราะคอนเทนต์นั้นเมื่อสร้าง impact กับลูกค้าได้แล้ว การกำหนด CTA ตอนท้ายทำให้ลูกค้าเกิดความคล้อยตาม เช่น ถ้าหากชอบคอนเทนต์นี้ และอยากจะติดตามอ่านคอนเทนต์ดี ๆ แบบนี้ต่อไปให้กดเพิ่มเพื่อนกับเราเอาไว้ โดยเมื่อมีคอนเทนต์อัพเดทใหม่ เราจะส่งให้คุณอ่านผ่าน LINE เป็นคนแรก ! และเมื่อทำทุกอย่างได้ครบทั้ง 3 อย่างแล้ว โอกาสที่ลูกค้าจะยอมกดเพิ่มเพื่อนเราจะมีมากถึง 80%+ เลยทีเดียว
แต่อันนี้ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ ว่ายังไม่หมด อันนี้จะเป็นแค่ภาพรวมของคอนเทนต์ครับ ว่ารูปแบบการทำคอนเทนต์เพื่อให้เพื่อนแอดไลน์เราเข้ามาจะต้องทำอย่างไร ? ในคอนเทนต์ Part 2 เราจะบอกถึงเทคนิค ลูกเล่นที่เราจะใส่ให้กับคอนเทนต์ เพื่อให้คอนเทนต์ของเราแพรวพราวและมีโอกาสในการเพิ่มเพื่อนของลูกค้าสูงขึ้นไปอีก ถ้าอยากให้รีบปล่อย คอมเม้นต์ไว้ได้ที่หน้าโพสต์เลย แล้วเจอกันคอนเทนต์ต่อไป !