ต่อจากคอนเทนต์ที่แล้วที่เราพูดถึงภาพรวมของการทำคอนเทนต์ยังไง ให้คนยอมกดแอดไลน์เรา
และในคอนเทนต์นี้จะพูดถึงเทคนิค ลูกเล่นการทำคอนเทนต์ให้แพรวพราวเพื่อที่จะให้คนอยากเพิ่มเพื่อนกับ LINE ของเรา เกริ่นมาซะเยอะแล้ว เราก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า (สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน Part แรก กดที่นี่ เพื่ออ่านก่อนจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นนะครับ)
ต้องทำข้อเสนอ เพื่อให้เขายอมกดเพิ่มเพื่อนเราผ่าน LINE โดยการเพิ่มเพื่อน
เมื่อสินค้าหรือบริการของเรา คู่แข่งสามารถเลียนแบบได้ หรือมีการแข่งขันในตลาด สิ่งที่เราจะสามารถทำให้เราเหนือกว่าคู่แข่งได้ด้วยคือการที่เรามีข้อเสนอที่ลูกค้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การทำคอนเทนต์ใน Stage นี้ส่วนมากจะเป็นกลุ่มคนที่เป็น Hot Audience (กลุ่มคนที่พร้อมซื้อสินค้าของเรา ซึ่งเราจะมาอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Stage Audience อย่างละเอียดในคอนเทนต์หน้า ถ้าหากสนใจ อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจ และคอมเมนต์เอาไว้ว่าสนใจเรื่อง Stage Audience ไว้ใต้โพสต์นะครับ)
กลับมาที่เรื่องของเรา ใน Stage นี้มีหลายคนที่ยังลังเลในการที่จะกดเพื่อเพิ่มเพื่อนใน LINE ของเรา เพราะถ้าเป็นโฆษณาที่เรานำไปวางไว้บน Facebook และลูกค้าพร้อมที่จะซื้อแล้ว ส่วนมากเขาจะกดพูดคุยกับเราผ่าน Messenger เลย ดังนั้นแล้วการมอบข้อเสนอที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในคอนเทนต์ เช่น ถ้าเพิ่มเพื่อนผ่าน LINE ของร้านค้าคุณจะได้รับส่วนลดพิเศษเพิ่มอีก 100 บาท ! ถามว่าแล้วเราไม่ขาดทุนแย่หรอถ้าทุกคนเพิ่มเพื่อนมาทุกคนและเราต้องลด 100 บาททุกคน ?
จะอธิบายให้ฟังแบบนี้ครับ สมมติว่าเรายิงโฆษณาไปหาลูกค้าใหม่ ต้นทุนต่อการซื้อ 1 คนเท่าไหร่ครับ ? อาจจะมากกว่าการที่คุณได้ลูกค้าที่เพิ่มเพื่อนใน LINE ของคุณ และทำการ Up Sell ด้วยเทคนิค Value Ladder ซึ่งจะทำให้คุณสามารถลดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่ได้มากมายเป็น 10 เท่าเลยนะครับ แถมยังสร้างมูลค่าการขายได้อย่างไม่อยากอีกด้วย เพราะว่ากลุ่มลูกค้าพวกนี้คือกลุ่มที่อยากซื้ออยู่แล้ว (เดี๋ยวไว้ผมจะมาอธิบายเรื่อง Value Ladder แบบละเอียดอีกทีหนึ่ง เพราะต้องใช้เวลาอธิบายยาวพอสมควร กดติดตามไว้ รับรองได้ความรู้เต็มอิ่มแน่นอน !)
บอกถึงสิทธิประโยชน์ที่เขาจะได้รับ เมื่อเพิ่มเพื่อนไลน์เรา
เราต้องบอกกับลูกค้าอย่างชัดเจนในคอนเทนต์ ว่าเมื่อถ้าหากคุณเพิ่มเพื่อนใน LINE ของเรา คุณจะได้รับสิทธิพิเศษอะไรบ้าง เช่น จะมีการแจ้งสินค้าใหม่ หรือ โปรโมชั่นที่อัพเดทเฉพาะในไลน์ ซึ่งตรงนี้เราสามารถที่จะให้โปรโมชั่นสำหรับคนที่เขาควรจะได้รับ เราไม่จำเป็นต้องมีแค่โปรโมชั่นเดียว ถ้าหากเขาเป็นคนที่ซื้อคุณมาหลายครั้งแล้ว กับเพิ่งซื้อคุณเพียงครั้งแรก คิดว่าพวกเขาควรได้รับโปรโมชั่นแบบเดียวกันไหมครับ ?
ใช่ครับ พวกเขาควรได้รับการดูแลที่แตกต่างกัน หรือเรียกอีกอย่างว่า CRM ซึ่งคอนเทนต์ที่นำเสนอไปก็แตกต่างกัน การทำคอนเทนต์เพื่อดึงคนเข้ามาเพิ่มเพื่อนต้องบอกถึงสิทธิ์ หรือ ประโยชน์ที่เขาจะได้รับพิเศษไปกว่าคนที่ไม่ได้เพิ่มเพื่อน และด้วยความโชคดีของเราที่ใช้ LINE OA เพราะ LINE OA มีฟังก์ชั่นที่สามารถติด Tag ได้ว่าคน ๆ นี้เป็นลูกค้าประเภทไหน เวลา Broadcast เราไม่จำเป็นต้องนั่งคุยกับทุกคน เพียงแต่เราต้องทำการ Segment ให้ละเอียดตั้งแต่ทีแรก แล้วเราก็จะสามารถเก็บกินจาก List Building ของเราได้อีกยาว
มอบคอนเทนต์ที่มีประโยชน์สำหรับเขา และบอกว่าพิเศษสำหรับผู้ติดตามเท่านั้น
อย่าสักแต่ทำคอนเทนต์ขายของอย่างเดียว เราต้องทำคอนเทนต์ที่มอบชุดความรู้ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับเขา รวมไปถึงคอนเทนต์เหล่านั้นอาจจะพิเศษสำหรับคนที่ติดตามเท่านั้น อาทิเช่น เราขายดัมเบล ชุดออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน เราควรมีคอนเทนต์เกี่ยวกับการออกกำลังกายที่พิเศษสำหรับใน LINE เท่านั้น จะช่วยเพิ่มโอกาสในกับเขาในการกดเพิ่มเพื่อนมากยิ่งขึ้น และจะยังสามารถสร้าง Brand Royalty ได้อีกด้วย และที่สำคัญ LINE สามารถที่จะ Broadcast แบบเลือกเฉพาะคนก่อนหน้าที่เปิดอ่านคอนเทนต์อันเก่ามาแล้วเท่านั้นได้ ซึ่งจะทำให้เขาติดตามทุกคอนเทนต์ของเรา และเราจะได้กลุ่มคนที่มีโอกาสซื้อจริง ๆ ในการ Broadcast ขายของ
วางแผนการวางคอนเทนต์ในแต่ละ Media ให้เหมาะสม และดูความยาวของคอนเทนต์
ความยาวแต่ละคอนเทนต์ควรมีความยาวที่เหมาะสมสำหรับในแต่ละ Platform ไม่ใช่ว่าทุก Platform เราจะต้องเอาคอนเทนต์ยาว ๆ ไปวางไว้อย่างเดียว เพราะ Behavior หรือ พฤติกรรมของคนในแต่ละ Platform ก็ไม่เหมือนกัน เช่น Facebook อาจจะทำคอนเทนต์ที่ยาวได้ และเน้นการใส่รูปเยอะ ๆ เพื่อให้ User ได้ย่นระยะเวลาในการทำความเข้าใจ เพราะถ้าอ่านยาวจนเกินไปอาจจะทำให้ลูกค้าเกิดความเบื่อหน่าย และปัดคอนเทนต์ทิ้งไปก่อนที่เขาจะได้เพิ่มเพื่อนใน LINE ของเรามา
หรือใน Twitter ที่เป็น Platform ที่เน้นความสั้นและกระชับของเนื้อหา และเน้นความเป็นกันเองของภาษา ทำคอนเทนต์ที่สามารถทิ้งความสงสัยให้กับเขาเพื่อให้เพิ่มเพื่อน LINE เพื่ออ่านคอนเทนต์แบบฉบับเต็ม เช่น “ถ้าอยากยืดอายุ ผิวสวยหน้าใส แบบไม่ต้องใช้สารเคมีใดๆ อีกทั้งยังสามารถเห็นผลได้ภายใน 21 วัน (โดยวิธีธรรมชาติ) อยากรู้ว่าทำไง เพิ่มเพื่อน LINE มาเดี๋ยวเราจะส่งลิ้งให้คุณดูแบบเต็มอิ่มมมม”
ทั้งนี้แล้ว การทำคอนเทนต์เพื่อให้ลูกค้าเพิ่มเพื่อนมา ควรทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย อาทิเช่น กลุ่ม Cold Audience (เพิ่งรู้จักเรา) อาจจะยังไม่รู้จักสินค้าของเรา ควรทำคอนเทนต์เพื่อแก้ปัญหาของเขา คลำจุดให้เจอ หรือ Warm Audience (รู้จักเราแล้ว) ก็ควรที่จะทำคอนเทนต์เน้นให้สิทธิพิเศษเมื่อเพิ่มเพื่อนมา (ดังที่อธิบายไปแล้วข้างต้น)
นี่ก็เป็นทริคและวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ กับการที่จะให้ลูกค้าของคุณเพิ่มเพื่อนใน LINE สำคัญที่สุดไม่มีใครรู้พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ดีไปกว่าตัวคุณเอง ธุรกิจของคุณเอง ดังนั้นแล้วก่อนที่เราจะเริ่มทำคอนเทนต์ สิ่งที่สำคัญที่สุดเราต้องรู้ก่อนว่าเราจะทำไปเพื่ออะไร ? การวางแผนมีเดียนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ว่าเราจะ Lead คนมาจาก Platform ไหน
เพราะฉะนั้นถ้าแผนการถูก เป้าหมายย่อมไปถึงได้ไม่ยาก
แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่รู้จะวางแผนมีเดียอย่างไร ถ้าให้เขียนคงจะยาก เพราะในแต่ละธุรกิจ กลุ่มเป้าหมายก็ต่างกัน พฤติกรรมต่าง กลุ่มคนที่อยู่ในแต่ละ Platform ก็ต่าง
สามารถติดตามเนื้อหาสุด Exclusive ของนินจาการตลาดที่ไม่ได้ลงที่ไหนและคอร์สเรียนฟรี ให้พิเศษเฉพาะใน Facebook กลุ่มปิด “Digital Media Planning 2020” คลิกไปขอเข้าร่วมได้เลย มีอัปเดตเนื้อหาอยู่ตลอด
และนี่ก็เป็นอีก 1 เทคนิคที่จะทำให้ลูกค้าของคุณเพิ่มเพื่อนใน LINE และการที่คุณจะมาถึงบรรทัดนี้ได้ ลองย้อนกลับไปดูว่าคุณเจอทางเข้าคอนเทนต์นี้ที่แรกที่ไหน คุณต้องผ่านกี่ Stage กว่าจะถึงตรงนี้ นี่แหละครับ Media Planning + Content = ผลลัพธ์ที่เราต้องการ !
แล้วเจอกันในคอร์สนะครับ ^^