ร้านจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความออร์แกนิก และไม่ได้มีดีเเค่เรื่องมะนาว เเต่ครอบคลุมตั้งเเต่ ข้าวสาร เครื่องปรุง เนื้อสัตว์ ขนมขบเคี้ยว ไปจนถึงของใช้ พวกเเชมพู สบู่ ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางก็ยังมี
ซึ่งที่ทำให้ Lemon Farm แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ก็คือ สินค้าทุกตัวของเขานั้นออร์แกนิก ผลิตจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ไร้สารเคมี ซึ่งตรงกับสโลแกนของ Lemon Farm
ที่ว่า “เติมสุขภาพดี ส่งต่อวิถียั่งยืน”
.
ช่างเป็นธุรกิจที่เกิดมาเพื่อตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพในปัจจุบันได้ดีมาก ๆ เพราะเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เริ่มศึกษาเเละทำความเข้าใจกับอาหารออร์แกนิกม ากขึ้น จนทำให้ในตอนนี้ “ตลาดออร์แกนิกในไทย” มีมูลค่าอยู่ที่ 2,700 – 3,000 ล้านบาท เเละยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง
.
เเต่กว่าที่เขาจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ลองย้อนกลับไปช่วง 22 ปีก่อน Lemon Farm เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 ซึ่งเราก็คงรู้กันดีว่า ตลาดเพื่อสุขภาพในยุคนั้นกับยุคนี้แตกต่างกันมากแค่ไหน ผู้คนยังไม่ได้ให้ความสนใจกับ สินค้าออร์แกนิกมากนัก เเละถ้ายิ่งราคาสูงกว่าอาหารธรรมดา คนส่วนใหญ่ก็ยิ่งจะเบือนหน้าหนี และไม่อินไปกับสินค้าพวกนี้
.
เเล้ว Lemon Farm ก้าวข้ามผ่านจุดนั้นมาได้อย่างไร ?
เเต่ก่อนจะรู้ว่าเขาผ่านมันมาได้อย่างไร ทำอย่างไรให้เป็นที่รู้จักเเละเติบโตจนยิ่งใหญ่ได้ ทุกคนต้องเข้าใจก่อนว่า Lemon Farm เป็นโมเดลธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) มีเป้าหมายที่ชัดเจน คือต้องการที่จะแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชน สังคมเเละสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ไม่ใช่เพียงสร้างกำไรอย่างเดียว
.
ซึ่งเป้าหมายหลัก ๆ ของ Lemon Farm คือช่วยยกระดับชีวิตของคนเมืองกับเกษตรกรให้ดีขึ้น โดยลงไปทำงานกับชุมชนเอง สนับสนุนให้เกษตรกรเปลี่ยนการทำเกษตรแบบเดิม ๆ ที่ใช้สารเคมี มาทำเกษตรแบบอินทรีย์แทน เพราะมันดีต่อโลก เเละดีต่อผู้บริโภค
โดยทาง Lemon Farm จะมีระบบตรวจสอบเเละรับรองมาตราฐาน รับประกันคุณภาพ มีการประกันราคา และรับซื้อตลอดทั้งปี ในหลากหลายพืชพันธุ์อินทรีย์ เพื่อให้เกษตรกรทั้งหลายมั่นใจได้ว่า มีตลาดที่พร้อมรองรับผลผลิตที่แน่นอน มีรายได้ต่อเนื่อง ที่สามารถเลียงชีพ เลี้ยงครอบครัวได้
.
ส่วนตัวผู้บริโภคในช่วง 22 ปีก่อนนั้น คนเมืองก็ไม่ได้สนใจเรื่องสุขภาพมากเหมือนปัจจุบันนี้ ดังนั้นหน้าที่ของ Lemon Farm ก็คือทำให้ผู้คนเหล่านั้นหันมาใส่ใจสุขภาพ เเละให้ความสำคัญในการเลือกกินอาหารให้มากขึ้น เพราะต่อให้ผลผลิตจากเกษตรกรจะดีแต่ไหน ถ้าผู้บริโภคไม่เปิดใจก็คือ จบนะครับ
ในช่วงเเรก Lemon Farm เริ่มเปิดร้านตามปั๊มน้ำมันก่อน เเละจึงค่อย ๆ ขยายสาขาเข้ามาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ จนทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าออร์แกนิกได้มากขึ้น เเละง่ายขึ้น เเต่ส่วนใหญ่ Lemon Farm จะไปตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง เพราะซึ่งเป็นย่านที่มีกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ เนื่องด้วยเหตุผลสุดเบสิคเลยครับ “ของดี ของมีคุณภาพ” ก็ต้องตามมาด้วยราคาที่สูงหน่อย
สินค้าของ Lemon Farm ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการสนับสนุนของชุมชนผู้ผลิตเท่านั้นเเต่ยังมาจาก ผู้ผลิตอื่น ๆ ที่ได้รับการยอมรับเรื่องมาตราฐานในเรื่องคุณภาพมาแล้วเหมือนกัน
ซึ่งถ้าถามว่าที่ผ่านมา Lemon Farm ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากแค่ไหน ?
ปี 2561 รายได้ 551 ล้านบาท กำไร 7 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 609 ล้านบาท กำไร 24 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 611 ล้านบาท กำไร 18 ล้านบาท
ซึ่งเห็นกันได้ชัดเลยว่า Lemon Farm เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง แม้ในปีที่มีโควิด-19 ระบาดก็ยังขายได้ดี สวนกระเเสสุด ๆ ไปเลยครับ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามันมีโรคระบาดด้วยนี่แหละครับ คนถึงได้หันมาสนใจ ใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น
.
เเต่ก็ประมาทไม่ได้นะครับ เพราะว่า ยิ่งตลาดสุขภาพใหญ่ขึ้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น วันนี้ผมว่าเราก็ฟังเรื่องราวของ Lemon Farm กันมาพอสมควรแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องรอดูกันครับว่า Lemon Farm จะมีอะไรเด็ด ๆ ออกมาข่มคู่เเข่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาเจาะตลาดสุขภาพนี้