คนทั่วไปมักเข้าใจกันว่าการทำการตลาด (Marketing) และการสร้างแบรนด์ (Branding) ว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งความจริงแล้วฟังดูคล้ายกันแต่แตกต่างกันในรายละเอียด
วันนี้เราลองมาทำความเข้าใจกันใหม่ ว่าทั้งสองคำนี้แตกต่างกันอย่างไร
Marketing vs Branding คืออะไร?
.
โดยหลักแล้วความแตกต่างระหว่างการสร้างแบรนด์และการตลาดอยู่เรื่องของแนวคิด ระยะเวลา วิธีการ และเครื่องมือในการโปรโมทธุรกิจ คำที่เกี่ยวข้องเช่น การโฆษณา, โซเชี่ยลมีเดีย, แคมเปญ, โปรโมชั่น ล้วนเป็นเรื่องของกลยุทธ์ในเรื่องของฝั่งการตลาด มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มยอดขายและสร้างกำไรให้ธุรกิจ
ส่วนการสร้างแบรนด์จะเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญถึงภาพลักษณ์ตัวตนของธุรกิจ เป้าหมายคือสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าในระยะยาว เน้นไปที่อารมณ์ความรู้สึก, ประสบการณ์ ซึ่งไม่ใช่แค่ โลโก้, สโลแกน, แพ็คเกจ, CI แต่รวมถึง วิสัยทัศน์, การผลิต, คุณภาพสินค้า, การบริการ เพื่อให้เกิดการจดจำคุณค่าและนำไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty)
เทียบ 5 ความต่าง Marketing และ Branding แบบชัดๆ
1. ใช้ระยะเวลานาน vs ใช้ระยะเวลาสั้น
.
Branding คือเป้าหมายในระยะยาว ที่กำหนดตัวตนอัตลักษณ์ บ่งบอกได้ถึงคุณค่าของแบรนด์, อุดมคติ, และความทะเยอทะยาน ขณะที่ Marketing เป็นโซลูชั่นที่มีเป้าหมายในระยะสั้น ที่ต้องใช้เครื่องมือและการสื่อสารหลายรูปแบบเพื่อกระตุ้นยอดขาย
2. ความสม่ำเสมอ vs เปลี่ยนแปลงได้เสมอ
.
Branding เป็นวิธีการแสดงตัวตนของธุรกิจเราให้โลกได้รับรู้ มีความสม่ำเสมอต่อเนื่องและไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ในขณะที่ Marketing มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนากลยุทธ์อยู่ต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสของตลาดธุรกิจนั้นๆ
ทะเยอทะยาน ขณะที่ Marketing เป็นโซลูชั่นที่มีเป้าหมายในระยะสั้น ที่ต้องใช้เครื่องมือและการสื่อสารหลายรูปแบบเพื่อกระตุ้นยอดขาย
3. ความสัมพันธ์ vs ความต้องการ
.
Branding เป็นเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า จำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ในระยะยาวที่สะท้อนถึงแบรนด์ให้เข้าไปอยู่ในใจของลูกค้า ผ่านการสร้างความรู้สึกทางอารมณ์ ในทางตรงกันข้าม Marketing เป็นเรื่องของการสร้างความต้องการ กระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าให้เร็วที่สุด
4. สร้างการจดจำ vs สร้างยอดขาย
.
Branding คือเรื่องของการสร้างอัตลักษณ์จดจำ ตัวตนของแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับธุรกิจของเรา ซึ่งแน่นอนว่าภาพจำที่แข็งแรงและมีความแตกต่างมากกว่า ย่อมทำให้ลูกค้ายอมที่จะจ่ายเงินซื้อได้มากกว่าเช่นกัน ขณะที่การตลาดเป็นเรื่องการใช้เครื่องมือต่างๆ ในการกระตุ้นขับเคลื่อนสร้างยอดขายทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า การสอบถามข้อมูล การค้นหาข้อมูล
ยกตัวอย่าง Branding และ Marketing ของ Apple
.
Apple มีสโลแกนหลักว่า Think different นั่นคือคิดอย่างแตกต่าง จึงทำให้สินค้าของ Apple แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อยู่เสมอและนั่นคือสิ่งที่ลูกค้าแฟนคลับ Apple จดจำได้เสมอ นั่นคือ Branding ของ Apple
ขณะที่ในส่วน Marketing สำคัญของ Apple คือ กฎทอง 5 ประการในการบริการลูกค้า (5 Distinct Service Steps) ได้แก่
.
A : Approch ต้อนรับลูกค้าด้วยความอบอุ่น และนำเสนอบริการให้เข้ากับลูกค้า
.
P : Probe สอบถามความต้องการของลูกค้าด้วยความสุภาพ
.
P : Present นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาสำหรับลูกค้า เพื่อนำกลับไปใช้ที่บ้านในวันนี้
.
L : Listen รับฟังและแก้ไขปัญหา ตลอดความกังวลของลูกค้า พร้อมนำกลับมาเป็นหัวข้อในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคต
.
E : End ทิ้งท้ายการบริการ ส่งคำลาและเชื้อเชิญเพื่อให้กลับมารับบริการ ซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคต
.
ดังนั้นทั้ง Branding และ Marketing ต่างเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาธุรกิจควบคู่กัน จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ เพราะ Branding ช่วยการสร้างความสัมพันธ์และความประทับใจให้กับลูกค้าให้ผลในระยะยาว ขณะที่ Marketing ช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรให้กับธุรกิจในระยะสั้น แบ่งตามแคมเปญ การใช้สองสิ่งอย่างถูกต้อง จะช่วยให้แบรนด์เอาชนะคู่แข่งในตลาดด้วยกลยุทธ์ จนครองใจลูกค้าได้ยาวนาน
.
อ่านแล้วหวังว่าคงเข้าใจความแตกต่างของ Branding กับ Marketing มากขึ้น ใครมีข้อสงสัยประเด็นไหน หรืออยากให้เล่าเรื่องของแบรนด์อื่นๆ ลองคอมเมนต์บอกเราได้เลย