“Road Map to Success” เรียนรู้เส้นทางความสำเร็จจากคนเคยสำเร็จหลากหลายด้าน เพราะธุรกิจไม่ได้มีแต่การขาย หรือเรื่องผลกำไรอย่างเดียว การบริหารทรัพยากรบุลคลหรือทีมงานก็เป็นหนึ่งให้เรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการ SME ต้องเข้าใจ
“ในอนาคตคนจะงอก แต่แผ่นดินไม่งอก”
.
คำพูดนี้เป็นของ นายจุล คุ้นวงศ์ หรือกำนันจุล เมื่อกว่า 80 ปีก่อน ผู้ที่ก่อตั้งธุรกิจไร่กำนันจุลขึ้นจากพื้นที่ว่างเปล่าให้กลายมาเป็นแหล่งสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ที่ไม่ใช่เฉพาะของครอบครัวกำนันจุลครอบครัวเดียวเท่านั้น แต่เป็นอีกหลายร้อยครอบครัวรวมแล้วมากกว่า 1,000 ชีวิต ที่ได้รับ
กำนันจุล นางสาย คุ้นวงค์ ผู้ก่อตั้งไร่กำนันจุล คุณปู่ คุณย่า ของคุณโป้ง จงสฤษต์ คุ้นวงศ์
.
นินจาการตลาดได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณโป้ง จงสฤษต์ คุ้นวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่นายจุล คุ้นวงศ์ ในฐานะหัวเรือใหญ่แห่งไรกำนันจุล ที่เป็นผู้สานต่อกิจการนี้เป็นรุ่นที่ 3 ต่อจากคุณปู่จุล คุ้นวงศ์ หรือกำนันจุลนั่นเอง
.
คุณโป้งเริ่มเข้ามาบริหารกิจการเมื่อปี 2014 หรือประมาณ 6 ปีก่อน ซึ่งยังคงสานต่อเจตนารมณ์ของคุณปู่ตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างที่นี่ขึ้นมา จากมุมมองที่ว่า “แผ่นดินแห่งนี้เป็นของทุกๆ คนที่มีความตั้งใจดี ปราถนาดี ถ้าสร้างมันด้วยความตั้งใจที่ดี สิ่งดีๆ ก็จะเกิด”
.
จากการพูดคุยกันทำให้ทราบว่า จากการบริหารของคุณโป้งผ่านมาได้ 5 ปี ผลประกอบการในปี 2018 ก็แตะจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ของกิจการตั้งแต่เปิดดำเนินการมา ทั้งในด้านตัวเลขยอดขายและผลกำไร ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงที่เข้ามารับหน้าที่ใหม่ๆ ในปี 2014 มีการเติบโตถึง 40% เลยทีเดียว
คุณโป้ง จงสฤษต์ คุ้นวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่นายจุล คุ้นวงศ์
“ไร่กำนันจุล 2025” ธุรกิจต้องมองไปข้างหน้า วางเป้าหมายไว้ไกล ถึงแม้ไปไม่ถึง แต่อย่างน้อยเราก็อยู่ไกลกว่าจุดเดิม
.
คุณโป้งเล่าให้ฟังต่อว่า สิ่งนี้ไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่เกิดจากความตังใจตั้งแต่เข้ามาเริ่มทำหน้าที่บริหารไร่กำนันจุลในปี 2014 ที่ได้ก่อตั้งโครงการ “ไร่กำนันจุล 2025” โดยเป็นการวางอนาคตของไร่กำนันจุลไว้ ใน 10 ปีข้างหน้า ว่าจะต้องเติบโตถึง 5 เท่า
.
เป็นตัวเลขที่ท้าทาย ซึ่งนั้นหมายถึงการที่จะต้องทำอะไรหลายๆ อย่างในแผนงาน ซึ่งหากเราไม่กำหนดเป้าหมายไว้เลยเราก็อาจจะไปได้ไม่ไกล แต่ถ้าตั้งธงเอาไว้ ถึงแม้ไปไม่ถึง อย่างน้อยๆ เราก็เดินมาไกลกว่าจุดที่เราเริ่มต้นออกแรง
ไร่กำนันจุล ธุรกิจที่ตกทอดสู่ Gen 3rd
บริหารคนนับพันอย่างไรให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างดีเยี่ยม
.
การบริหารคนในไร่กำนัลจุลเองจริงๆ ก็มีวิกฤตเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ว่าทุกครั้งที่เราเกิดวิกฤตอะไรเราจะคุยกันได้เสมอ เราจะได้รับความร่วมมือจากพนักงาน หรือแม้แต่กับคนรอบข้าง หรือกับชาวบ้าน บางทีมีเรื่องความเข้าใจผิดกัน เราก็คุยกันอย่างเปิดอก ทุกอย่างก็เลยจบลงได้ง่าย
.
เมื่อทุกอย่างเริ่มต้นจากความตั้งใจที่ดี ไม่ได้มองว่าทุกสิ่งมันเป็นของเราคนเดียว หรือของเราครอบครัวเดียว แต่มันเป็นของทุกๆ คน
ธุรกิจค้าปลีก ในนาม “ไร่กำนันจุล” 15 สาขา ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
การให้บทบาทหน้าที่ของกับพนักงาน เสมือนเค้าเป็นเจ้าของด้วยคนนึง
.
ที่ผ่านมาต้องเข้าใจก่อนเลยว่าการทำงานจะเป็นเหมือนกับเถ้าแก่และลูกน้อง โดยที่ลูกน้องจะคอยรอรับคำสั่งและปฏิบัติงานเท่านั้น สิ่งที่คุณโป้งได้เปลี่ยนก็คือ ให้บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ และให้โอกาสในการคิดแก้ไขปัญหา โดยที่ผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราก็จะยอมรับมัน ซึ่งอาจจะมีถูกบ้างผิดบ้าง โดยเราจะเคารพในความคิดและการตัดสินใจจากพนักงาน
.
ตรงนี้คุณโป้งก็บอกด้วยว่า แม้แต่ตัวเราเองก็ไม่ได้ทำถูกต้องทุกอย่างเสมอไป
.
สมัยก่อนที่ใช้วิธีการแบบเดิม คือพนักงานรับคำสั่งอย่างเดียวแล้วไปทำ ถึงแม้พนักงานจะทำเต็มที่แล้ว แต่ถ้าผลออกมามันผิดพลาด สิ่งที่พนักงานจะรู้สึกคือ เค้าจะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องของเค้า พอตอนนี้เราให้เค้าคิดเอง ถึงแม้เค้าจะถามกลับมาว่าให้ทำอย่างไรแบบไหนดี แทนที่เราจะบอกเค้าเลย ก็กลายเป็นถามกลับไปที่เค้าอีกรอบว่าเค้าคิดอยากจะทำแบบไหนดี แล้วก็ให้ความเคารพในการตัดสินใจ เมื่อผลออกมาไม่ดีหรือผิดพลาด เค้าจะมีความรู้สึกว่าเค้าต้องรับผิดชอบสิ่งนั้น
.
ถ้าออกมาดี แน่นอนความภาคภูมิใจก็จะเกิดกับเค้า ในฐานะที่เค้าเป็นผู้ออกความคิดและลงมือปฏิบัติจนสำเร็จด้วยตัวเอง
.
เดิมทีธุรกิจก็ทำงานกันแบบ Power Full กันอยู่แล้ว แต่พอใช้วิธีการนี้ ก็ทำให้ธุรกิจสามารถทำงานจำนวนที่เยอะขึ้นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณโป้ง กับพนักงาน 1,400 ชีวิต
นโยบายในการเปิดกว้างในการทำงานร่วมกับองค์กรภายนอกธุรกิจ
.
ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ เอกชนรายอื่นๆ หรือแม้แต่ชาวบ้าน เราเปิดกว้างเข้าร่วมมากขึ้น สมัยก่อนหากมีหน่วยงานใดเชิญเราเข้าไปร่วมประชุมหารือ เช่น ภาครรัฐ หน่วยงานราชการ เราก็จะดูว่าหากไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะไม่ไปร่วม เพราะรู้สึกว่างานเราเองก็ยุ่งมากอยู่แล้ว
.
แต่ตอนนี้เราก็พยายามไปเข้าร่วมมากขึ้น ซึ่งผลปรากฎว่าก็ได้มีอะไรดีๆ มีโอกาส หรือความรู้ หรือมุมมองใหม่นำเข้ามาใช้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ พนักงาน มากขึ้น
การทำงานเป็นทีม โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่
.
เรามักจะบ่นกันว่า เด็กรุ่นใหม่ไม่เอาไหน ขี้เกียจ ไม่ทนงาน ซึ่งคุณโป้งเชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นแบบนั้น เพราะเด็กรุ่นใหม่จะชอบความอิสระ เราจึงต้องปรับระเบียบของบริษัทให้เข้ากันได้กับยุคสมัย ตอนนี้เองไร่กำนันจุลก็เริ่มมีการให้อิสระมากขึ้นในด้านเวลาการทำงานแล้ว ซึ่งตอนนี้ได้ลองเริ่มทำต้นแบบขึ้นมาแล้ว
.
คนรุ่นใหม่ ชอบมีรายได้หลายทาง เราก็เปิดโอกาสให้เค้าได้แบบนั้นเลย เช่น เริ่มสอนเรื่องการบริหารการเงินให้พนักงาน ซึ่งเมื่อก่อนคุณโป้งเป็นผู้สอนเองเลย และนอกจากนั้นไร่กำนันจุลยังเปิดตลาดนัดให้กับพนักงานเอาสินค้าตัวเองมาขายกันเองได้อีกด้วย
.
Facebook และ LINE เป็นสิ่งที่ลูกน้องทุกคนชอบเล่นกัน ก็ถ้าอย่างงั้นเอาสินค้าของบริษัทไปขายเลย แล้วก็แบ่งเป็นค่าคอมมิชชั่นให้เลย
.
คนรุ่นใหม่เค้าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแต่เราต้องปรับตัวตาม โดยเฉพาะการชอบความท้าทาย ซึ่งเป็นนิสัยโดยส่วนใหญ่ของคนรุ่นใหม่ ดังนั้นหากเรากำหนดเป้าหมายและความชัดเจนว่าหากทำได้แล้วเค้าจะได้อะไร เช่น การทำให้เค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง หรือเป็นเจ้าของเลย เชื่อเลยว่า คนรุ่นใหม่จะทำงานถวายหัวให้เลย
การเรียนรู้ไม่มีวันจบ
.
คุณโป้งเป็นคนชอบเรียนรู้มาก ถ้าย้อนหลังไปช่วงก่อนแต่งงาน ตั้งเป้าไว้ว่าแต่ละเดือนจะต้องเรียนอะไรบ้าง ซึ่งพอเริ่มทำแบบนี้สักสองสามเดือน ปรากฏว่าเปิดปีใหม่มาก็กลายเป็นว่ามีโปรแกรมต้องไปเรียนครบทั้งปีไปซะแล้ว
เมื่อก่อนต้องยอมรับว่าเรียนเรื่องอะไรมา 30 ปี ก็นำมาประยุกต์ใช้หากินได้ยาวๆ แต่เดี๋ยวนี้ แค่ไม่ถึง 5 ปี หรืออาจสั้นกว่านั้น ก็มีเรื่องใหม่ๆ ออกมาให้เรียนรู้ใหม่อยู่เรื่อยๆ แล้ว ถ้าไม่รู้เรื่องนั้น ก็อาจจะเรียกได้ว่า ตามยุคไม่ทัน ปรับตัวไม่ทัน และดาจจะส่งผลต่อธุรกิจที่ทำอยู่ด้วย
และนี่ก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ “นินจาการตลาด” และ “ActionX2” อยากให้ผู้ประกอบการ SME ติดตามเอาไว้เป็นแม่แบบของแนวคิดการพัฒนากิจการ โดยเฉพาะเรื่องของการบริหารจัดการบุคคลากร
.
ใครที่อยากอ่านเรื่องราว หลักการหรือแนวคิดดีๆ แบบนี้อีกจากเข้าของกิจการท่านอื่นๆ ก็คอยติดตามในบทความสัมภาษณ์พูดคุยกับเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จและเชียวชาญในด้านต่างๆ กันที่นี่นะครับ
ติดตามอ่านความรู้ด้านกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดได้ในบทความครั้งต่อไป
กับ อ.ออดี้ – กิตติชัย ได้ใน Blog ของ นินจาการตลาด ที่นี่…
