ช่วงนี้คอนเทนต์แนวแนะนำเรื่องราวต่าง ๆ เช่น 5 สถานที่แลนด์มาร์ก @เชียงใหม่, 7 ไอเทมสุดฮิต พิชิตฤดูฝน ฯลฯ ถือเป็นคอนเทนต์ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมสูงมาก โดยเฉพาะการโพสต์แบบหลาย ๆ รูปต่อกัน (อัลบั้ม) บน Facebook เพราะด้วยรูปแบบที่ดูสวยงาม เข้าใจง่าย และใช้เวลาน้อยในการอ่าน จึงเป็นคอนเทนต์ที่ค่อนข้างดึงดูดผู้พบเห็นได้ดี ลองสังเกตดูสิว่าคอนเทนต์แนว ๆ นี้จะมีคนแชร์เยอะมาก ๆ เลย
ซึ่งการโพสต์คอนเทนต์ประเภทนี้ ก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายวิธี และหลากหลายรูปแบบ วันนี้นินจาการตลาดจะมาแนะนำเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการโพสต์คอนเทนต์ประเภทนี้ ให้ได้นำไปปรับใช้กัน พร้อมแล้วไปลุยกันเลย …
Topic น่าสนใจ ใคร ๆ ก็อยากแชร์
.
ไม่ว่าจะทำคอนเทนต์อะไรก็ตาม อย่างแรกเลยคือเราจะต้องมีหัวข้อ (Topic) ก่อนถูกไหม ซึ่งการที่จะได้มาซึ่งคอนเทนต์ที่เตะตาต้องใจ Target ของเรา หรือคนอื่น ๆ ก็ตามแต่ เราควรศึกษา Customer Insights ของเราให้ดีก่อนว่า Target ของเรา หรือกลุ่มเป้าหมายที่เราอยากให้เข้ามามีส่วนร่วมในโพสต์ของเราคือใคร อยู่ในช่วงวัยใด กำลังมีความสนใจในเรื่องใด และชื่นชอบคอนเทนต์ประเภทไหน จะได้ลุยได้อย่างถูกทาง
และขอแนะนำเพิ่มเติมว่า คอนเทนต์ที่จะเลือกมาทำนั้น ควรจะมีความเกี่ยวข้องกับสินค้า/ บริการของเราสักหน่อยก็ดี เพราะไม่อย่างงั้นเราจะได้แค่ยอดไลค์ยอดแชร์ แต่ awareness ต่อแบรนด์เป็นศูนย์ เช่น เราเป็นธุรกิจขายเสื้อกันฝน ก็อาจจะหยิบเอาเรื่องของโรคภัยที่มากับฤดูฝนมาทำเป็นคอนเทนต์ก็ได้ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับความรู้จากการติดตามเพจของเราด้วย ไม่ได้โดนขายของใส่เพียงอย่างเดียว
.
ซึ่งการทำคอนเทนต์แนวนี้ บางคนอาจจะมองว่าไม่น่าจะมีอะไร ใคร ๆ ก็น่าจะรู้อยู่แล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่ไปเสิร์ชข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับโรคภัยที่มากับฤดูฝนแบบจริง ๆ จัง ๆ การที่เราเสิร์ฟคอนเทนต์แบบนี้ออกไป อาจจะทำให้ผู้คนตระหนักถึงสุขภาพของตัวเองมากขึ้น จนอาจจะ tag ให้คนที่เขารักมาอ่าน หรือแชร์เพื่อบอกต่อเรื่องราวดี ๆ ต่อไปก็ได้ แค่นี้เราก็ได้ engagement มาบ้างแล้วล่ะ
Caption ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
.
แคปชันเป็นสิ่งที่สำคัญพอ ๆ กับ Topic และรูปภาพเลยนะครับ เพราะถ้าหัวข้อดี รูปภาพโดน แต่แคปชันดูไม่ค่อยอยากเล่า ใครเขาอยากจะอ่านต่อกันล่ะ จริง ๆ แล้วการเขียนแคปชันจะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่ยากนะครับ จุดสำคัญคือต้องเล่าให้น่าสนใจ มีการเกริ่นนำที่กระแทกใจให้คนอยากอ่านต่อ หรืออาจจะใช้การเล่นคำเข้าช่วยบ้าง หรืออาจจะเขียนแคปชันเน้นให้เกิด engagement เช่น ให้คอมเมนต์ว่าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้
.
และตอนนี้ Facebook กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงการแสดงผลบนหน้าจอมือถือครั้งใหม่ นั่นก็คือ มันจะโชว์แคปชันเพียง 3 บรรทัดเท่านั้น (จากเดิมประมาณ 7 บรรทัด) แต่ยังสามารถกด See More เพื่ออ่านต่อได้เหมือนเดิม ซึ่งเราอาจจะต้องมีการเรียบเรียงคำพูดให้ดีว่า ใน 3 บรรทัดทองคำนั้น จะเขียนอย่างไรให้ดึงดูดคนให้อยากอ่านต่อ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มวันที่ 19 ส.ค. 2019
รูปภาพสะดุดตา สะดุดใจ
.
อีกหนึ่งสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการทำคอนเทนต์แนะนำสิ่งดี ๆ ให้ได้ engagement เยอะ ๆ ก็คือ รูปภาพต้องหยุดการเลื่อนฟีดได้ ซึ่งการที่จะทำให้รูปภาพของคอนเทนต์ดูน่าสนใจ จนต้องหยุดดูหรือกดแชร์นั้น ไม่ใช่เพียงแค่ตัดต่อหรือตกแต่งภาพให้สวยเท่านั้น แต่รูปแบบการโพสต์ก็ช่วยให้คอนเทนต์ของคุณดูน่าสนใจเพิ่มขึ้นได้เป็นกอง ซึ่งนินจาการตลาดขอแนะนำ 3 รูปแบบการโพสต์คอนเทนต์รูปภาพบน Facebook ที่ฮอตฮิตติดลมบนมาฝากกัน
1. อัลบั้มแนวนอน
.
เป็นการโพสต์ที่ต้องการให้รูปแรกที่เป็นรูปหัวข้อ มีความโดดเด่นในรูปแบบแนวนอน โดยจะแบ่งออกเป็นสองแบบ คือ
อัลบั้มแนวนอน 1+2 คือ รูปปก 1 รูป และรูปประกอบอีก 2 รูป โดยตั้งค่าให้รูปปกมีขนาด 1200×600 px (4:3)
อัลบั้มแนวนอน 1+3 คือ รูปปก 1 รูป และรูปประกอบตั้งแต่ 3 รูปขึ้นไป โดยตั้งค่าให้รูปปกมีขนาด 1200×800 px (4:3)
* โดยรูปประกอบของทั้งสองแบบ ตั้งค่ารูปภาพให้มีขนาด 1:1
* รูปแบบ 1+3 ได้รับความนิยมมากกว่าในการทำคอนเทนต์แนะนำสิ่งต่าง ๆ เพราะช่วยให้เล่าเรื่องได้ดี โดยเฉพาะการใช้รูปประกอบเพียง 3 รูป เพราะทำให้เห็นรูปของคอนเทนต์ทั้งหมด ว่าจะเล่าอะไรบ้าง
Photo: Uppercuz
2. อัลบั้มแนวตั้ง
.
รูปแบบนี้คล้ายกับแบบแนวนอนเลย เพียงแต่รูปปกจะเป็นแนวตั้ง ทำให้มุมมองของภาพมีความแปลกตามากขึ้น ช่วยดึงดูดสายตาและความสนใจได้ดีในระดับนึง แต่อาจจะต้องอาศัยการจัดเรียงรูปที่มีความ creativity มากขึ้นไปด้วย โดยจะแบ่งออกเป็นสองแบบ คือ
อัลบั้มแนวตั้ง 1+2 คือ รูปปก 1 รูป และรูปประกอบอีก 2 รูป โดยตั้งค่าให้รูปปกมีขนาด 720 x 1440 px
อัลบั้มแนวตั้ง 1+3 คือ รูปปก 1 รูป และรูปประกอบตั้งแต่ 3 รูปขึ้นไป โดยตั้งค่าให้รูปปกมีขนาด 960 x 1440 px
* โดยรูปประกอบของทั้งสองแบบ ตั้งค่ารูปภาพให้มีขนาด 1:1
Photo: Uppercuz
3. จิ๊กซอว์ต่อกันในรูปเดียว (Grid)
.
รูปแบบนี้อาจจะดูเหมือนว่าทำยาก แต่จริง ๆ แล้วมันมีตัวช่วยครับ เพียงไม่เกิน 5 นาทีก็เสร็จแล้ว เพียงแค่เข้าไปในเว็บ http://grid.splendith.com/ จากนั้นก็เลือกรูปภาพ และ Layout ที่ต้องการได้เลย มีให้เลือกถึง 8 รูปแบบเลยทีเดียว
.
ซึ่งรูปแบบนี้จะทำให้คอนเทนต์ของคุณดูมีลูกเล่นที่น่าสนใจ สวยงาม และสะดุดตา
Photo: Uppercuz
มาสรุปรูปแบบการโพสต์รูปภาพกันอีกสักที
อัลบั้มแนวนอน เหมาะสำหรับการเล่าเรื่อง (Storytelling)
อัลบั้มแนวตั้ง เหมาะสำหรับดึงดูดคนให้สนใจ แนะนำให้ใช้รูปแบบ 1+3 โดยที่ใช้รูปประกอบเพียง 3 รูป เพื่อเน้นเนื้อหาสำคัญ
Grid เหมาะสำหรับดึงดูดคนให้สนใจเช่นกัน แต่ต้องเลือกคอนเทนต์และรูปภาพให้ดี เพราะอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคอนเทนต์หรือกับทุกแบรนด์
อยากเล่าเรื่องให้ออกมารูปแบบไหน เลือกใช้กันได้เลย แต่ต้องเลือกให้เหมาะกับคอนทนต์ด้วยนะจ๊ะ
และไม่ว่าจะเลือกการโพสต์รูปแบบไหนก็ตาม รูปภาพก็ยังสำคัญอยู่นะ แนะนำว่าถ้าคุมโทนได้ก็จะดีมาก ๆ เลยล่ะ แต่การคุมโทนในที่นี้ไม่ใช่แค่การใส่ฟิลเตอร์ หรือแต่งรูปเพียงอย่างเดียวนะ แต่หมายถึงองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมด
.
ไม่ว่าจะเป็น Corporate Identity (CI) รวมไปถึงการเลือกรูปประกอบให้มีความเชื่อมโยงกัน เช่น ถ้าจะเป็นรูปภาพ ก็ต้องเป็นรูปภาพทุกรูป ถ้าจะใช้ icon หรือ infographic ก็ต้องใช้ทุกรูปให้เหมือนกัน จะได้ไม่ดูโดดไปโดดมา
การทำคอนเทนต์แนะนำสิ่งต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพียงแต่ต้องรู้ก่อนว่า target ของเราคือใคร และนำ Customer Insights มาวิเคราะห์ ก็พอจะมีไอเดียในการคิดคอนเทนต์ขึ้นมาบ้าง นอกจากนั้นก็เป็นเทคนิคของเราเองว่า จะทำอย่างไรให้น่าสนใจ และดึงดูดให้คนอยากอ่านและอยากแชร์ บางทีแค่ภาพรวมของคอนเทนต์ออกมาดูดี คนแชร์ไปก่อนอ่านก็มีนะ เพราะเขาก็จะดูดีไปด้วยยังไงล่ะ
สามารถติดตามเนื้อหาสุด Exclusive ของนินจาการตลาดที่ไม่ได้ลงที่ไหนและคอร์สเรียนฟรี ให้พิเศษเฉพาะใน Facebook กลุ่มปิด “Digital Media Planning 2020” คลิกไปขอเข้าร่วมได้เลย มีอัปเดตเนื้อหาอยู่ตลอด
และหากมีคำถามอยากให้ช่วยเหลือด้านการสื่อสารการตลาดดิจิทัล ทั้งเรื่องเครื่องมือ (Media), เนื้อหา (Content) และ กลยุทธ์ (Strategy) สามารถเข้าไปทักสอบถาม อ.ออดี้ และผู้รู้มากมายใน “หมู่บ้านนินจา” LINE OpenChat
