Media, Strategy

Universe of E-Commerce ต้องเปิดร้านค้า Commerce แบบไหนที่ใช่ สำหรับธุรกิจเรา

“เออดีอ่ะ.. มองเห็นโลกการค้าออนไลน์ชัดขึ้นเยอะเลย…” ผมมีโอกาสได้ไปเจอภาพจักรวาลของ E-Commerce มาครับ ทีมงาน LINE Shopping เลยเอามาให้ข้อมูลไว้ครับ

ซึ่งคำว่า E-Commerce นี้ น่าจะเป็นคำพูดติดปากพวกเราไปแล้ว ในยุคที่ใครจะขายอะไรก็เริ่มขายได้ แค่ขอให้มีอินเตอร์เน็ตก็พอ พูดง่าย ๆ ว่า คำว่า “ทำ E-Commerce” ก็คือ คำว่า “ขายของออนไลน์” นั่นแหละ พวกเราคิดและเข้าใจแบบนั้นอยู่ใช่ไหมครับ

ซึ่ง เอาจริง ๆ มันก็ไม่ผิดนะครับ แต่ก็ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด

.
เพราะจริง ๆ แล้วมันมีรายละเอียดย่อยกว่านั้นครับ ซึ่งถ้าเรารู้เรื่องนี้ จะช่วยทำให้เราเข้าใจภาพรวมของจักรวาลการขายของบนโลกออนไลน์ได้ดีขึ้น เพราะมันมีมุมบางมุมที่แตกต่างกัน ถ้าเลือกมุมได้ถูกต้องยอดขายหรือโอกาสทางการค้าจะก้าวกระโดดแบบที่เราอาจไม่คิดฝันมาก่อนก็ได้

อ่านต่อ

E-Merketplace สร้างฤกษ์ สร้างเดช ให้คนไทยเข้าใจและยอมรับการซื้อของออนไลน์แบบก้าวกระโดด

ต้องขอบคุณแพลตฟอร์ม E-Marketplace อย่าง LAZADA ที่เปิดตลาดการค้าขายแบบเป็นตัวกลางให้ผู้คนเปิดร้านออนไลน์ได้โดยที่ไม่ต้องลงทุนสร้างระบบซื้อขายเอง ซึ่งอย่างที่ทุกท่านทราบดีถึงตัวเลขขาดทุนสะสมแต่ละปี แล้วมันก็ไม่น้อยเลยนะนั่น แต่ LAZADA ก็ยังยืนหยัดอยู่เพื่อให้ผู้คนทั้งฝั่งคนซื้อ และฝั่งคนขายยังใช้แพลตฟอร์ม E-Marketpace นี้อยู่ได้

.
แสดงว่ามันต้องมีอะไรดีเนอะ…
.
เพราะไม่นานก็มีทั้ง Shopee, JD, ฯลฯ เรียงแถวกันเข้ามา บางรายก็ล้มหายตายจากไป บางรายก็ยังแข็งแรงดีอยู่เพราะสายป่านยาว และบางรายก็ระส่ำระสายอยู่ไม่น้อยเหมือนกันในตอนนี้

.
ซึ่งเราคงไม่ได้มาพูดถึงในประเด็นที่ว่าทำไมเจ้าของ E-Marketplace เหล่านั้น ถึงยอมขาดทุนอยู่ได้
.
แต่เราจะมาพูดถึงภาพที่แสดงให้เห็นว่า E-Marketplace นั่นมันเป็นส่วนหนึ่งของ E-Commerce อย่างสมบูรณ์แบบเลย (ดูภาพสิว่ามันอยู่ข้างใน แบบไม่มีส่วนไหนหลุดออกมาจาก E-Commerce เลย)

ร้านค้าที่ต้องการความสะดวกในการบริหารจัดการ แต่ไม่ต้องการลงทุนหนักมาก การใช้ E-Marketplace ก็ช่วยเราได้เยอะเลย ทั้งงบการสร้างร้านค้าที่ต่ำ
.
เพียงแต่ต้องแลกกับการแข่งขันที่สูง ความแข็งแกร่งด้านการบริหารต้นทุนสินค้าให้ต่ำจึงเป็นปัจจัยหลักในการให้เราอยู่รอดได้เมื่อใช้ E-Marketplace ในการขายสินค้า โดยเฉพาะหากเราเป็นร้านค้าที่มีสินค้าโนเนม ไม่ได้เป็นแบรนด์ที่มีแต่ใคร ๆ ก็รู้จัก และรวมถึงหาเป็นสินค้าที่ไม่ได้มีความแตกต่างกับสินค้าคู่แข่งที่มีอยู่กราดเกลื่อนบนแพลตฟอร์มดัวย

Chat Commerce ฝรั่งยัง “งง” ว่าทำไมคนไทยใช้ซื้อขายกันอย่างคงทนยาวนานเหลือเกินผ่านไอช่องการแชทเนี่ย

ตามมาติด ๆ กับการซื้อขายผ่านการแชท ซึ่งต้องบอกว่าแรกเริ่มเดิมทีมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการค้าขาย… ใช่ครับ เพราะมันออกแบบมาเป็นเครื่องมือสำหรับพูดคุยกันของ Social Media แต่อย่างว่าครับ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยเฉพาะการปรับตัวและประยุกต์ใช้ทุกอย่างที่มันน่าจะช่วยให้ขายของได้ แม้แต่เจ้าของแพลตฟอร์มเอง ก็ต้องเอาประเทศไทยเป็นแม่แบบในการพัฒนาฟีเจอร์กันอยู่บ่อยครั้ง

.
ถ้าดูจากรูปจะเห็นว่า Chat Commerce นั่น มันมีแค่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่เป็น E-Commerce ที่เหลือเป็นการซื้อขายกันแบบแมนวลส่วนตัวล้วน ๆ

.
ถ้าร้านค้าของเรามีฐานลูกค้าบน Social Media อยู่ และมีความแน่นเหนียวกันพอสมควร การใช้ Chat Commerce ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ควรเลือกใช้ครับ ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าเราต้องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ตอนอยากจะขายเท่านั้น

Chat Commerce ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ต้องใช้ต้นทุนในการสร้างขึ้นมาเท่าไหร่นัก แต่การจะมีคนมาทักเพื่อซื้อขายสินค้านั้น ต้องใช้พลังในการสร้างความรู้จัก ความคุ้นเคย และความไว้ใจมากอยู่ครับ โดยเฉพาะสินค้าที่มันมีการแข่งขันสูง ไม่ได้เป็นสินค้านวตกรรมที่สร้างความแตกต่างกันเท่าไหร่นัก

Chat Commerce ฝรั่งยัง “งง” ว่าทำไมคนไทยใช้ซื้อขายกันอย่างคงทนยาวนานเหลือเกินผ่านไอช่องการแชทเนี่ย

จากสถิติเฉลี่ยแล้วคนไทยประมาณครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ที่ยังมีพฤติกรรมชอบซื้อสินค้าผ่านการแชทพูดคุย… ใช่ครับ มันคือพฤติกรรมที่ทำให้ร้านค้านิยมใช้ Chat Commerce จากประเด็นก่อนหน้า เพียงแต่มันต้องแลกกับการใช้พลังงานที่ไม่ใช่แค่พลังของการสร้างฐานแฟน แต่เป็นพลังงานของการพิมพ์ตอบโต้ลูกค้า เช่น นำเสนอ, ตอบข้อสงสัย, สรุปรายการสินค้า, เปลี่ยนรายการสินค้า, นำเสนอโปร Up Sales, แจ้งเลขบัญชี, ยืนยันการชำระเงิน, แจ้งเลขพัสดุ ฯลฯ

.
เยอะเนอะ…

.
ใช่ครับ เยอะจริง..
.
แล้วถ้ามันมีระบบ E-Commerce อยู่ใน Chat Commerce ละ จะเป็นยังไง
.
ก็เป็นแบบที่เห็นในภาพครับ ว่ามีส่วนหนึ่งของ Social Commerce ทับกันอยู่กับ Chat Commerce โดยจะขายผ่านการพูดคุยก็ได้ หรือให้ลูกค้าเลือกสินค้าลงตระกร้าเองก็ดี หรือคุยกับลูกค้าปกตินี่แหละ แต่ปิดด้วยการหยิบสินค้าจากตระกร้างให้ลูกค้าแค่กดยืนยันออเดอร์และชำระเงินก็พอ

.
ภาระงานของแอดมินห้องแชทก็น้อยลงไปหลายเท่าเลยใช่ไหมละ

.
อย่างที่บอกครับ ว่างานน้อยลง แถมโอกาสได้ยอดขายเพิ่มขึ้นมากอีกด้วย เพราะมันใช้เวลาในการปิดการขายน้อยลงไปมากกว่าเดิม

ดังนั้นร้านค้าที่ทำ Chat Commerce อยู่แล้ว ก็สามารถต่อยอดไปใช้ Social Commerce ได้เลย
.
LINE มองเห็นจุดนี้ ก็เลยสร้าง LINE Shopping หน้าร้านค้าออนไลน์ที่ซื้อผ่านแชทก็ได้ ผ่านตระก็ได้ดี โดยมีระบบ MyShop ไว้ให้สำหรับเจ้าของร้านค้าเข้าไปสร้างและตกแต่งร้านและสินค้าของตัวเอง

Quick Commerce สั่งปุ๊บ ส่งปั๊บ

ไม่ต้องออกไปไหนก็ท้องอิ่มได้ จากพี่ๆ Rider หลากหลายแบรนด์ หลากหลายสีที่วิ่งกันขวักไขว่บนถนน อารมณ์ว่า วันไหนที่คุณออกจากบ้านมา จะต้องได้เห็นรถ Rider อย่างน้อยก็สักคันนึงละ

.
เทรนด์นี้กำลังมาแรง และก็ยิ่งถูกกระตุ้นให้แรงมาจากช่วง Lockdown ที่ผ่านมา จนทำให้ลูกค้าเริ่มคุ้นชินและติดนิสัยการสั่งของแล้วต้องได้ทันที

.
โดยเริ่มจากสินค้าที่มีอายุสั้น อย่างกลุ่ม Food & Beverage ที่สั่งง่าย ส่งง่าย หมดไว สั่งใหม่ได้บ่อย ๆ เป็นสินค้าที่มีการซื้อซ้ำง่าย จนตอนนี้ไล่มาถึงสินค้าที่มีราคาสูงหลักหลาย ๆ หมื่นอย่างเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีก็มี
.
ผมเองยังเคยสั่ง VDO Switcher แบบส่งทันทีจาก LNW Gasget ในราคา 20,000 บาทมาแล้ว ช่วงล็อกดาวน์แรก ๆ เลย
.
นั่นเมื่อสองปีก่อนนะ แล้วตอนนี้ละ คิดว่าจะมีแบรนด์สินค้าไหนบ้างที่ใช้ Quick Commerce มาใช้เป็นกลยุทธ์ในการสร้างโอกาสปิดการขายให้มากกว่าเดิมบ้าง
.

จากภาพก็จะเห็นเลยว่า มันมีความเป็น E-Commerce สูง แต่ก็ยังมีทั้งความเป็น Social Commerce และ Chat Commerce อยู่ด้วย
.
คุณละ เคยสั่งสินค้าผ่านแพลตฟอร์มไหนบ้าง โดยเฉพาะอันสุดท้าย Quick Commerce เล่าให้เราฟังถึงประสบการณ์นั้นสักหน่อยนะครับ

.
#นินจาการตลาด #Ecommerce #ChatCommerce #SocialCommerce #QuickCommerce #SMEneedtoknow #SMEต้องมีกลยุทธ์

ขอบคุณที่มาของภาพ #LINEShopping #MyShop

.
เยอะเนอะ…

.
ภาระงานของแอดมินห้องแชทก็น้อยลงไปหลายเท่าเลยใช่ไหมละ