หลังจากที่ RS Group เปิดตัวเหรียญ Popcoin ไปอย่างเป็นทางการ ก็มีหลายคนที่อึ้ง และ ยังคงงงว่า เหรียญ Popcoin มันคืออะไร
มันจะเข้ามาช่วยอะไร? แล้วเกี่ยวอะไรกับวงการบันเทิง และวงการการตลาด?
หลังจากที่ห่างหายกันไปนาน งั้นวันนี้นินจาการตลาดจะกลับมา #สรุปให้ในโพสต์เดียว
1. เหรียญ Popcoin ที่ว่านั้นเกิดมาจากความร่วมมือของ 3 บริษัท คือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน), โฟร์ท แอปเปิ้ล และบริษัท ฟิวเจอร์ คอมเพเทเร่ จำกัด พร้อมกับวางให้เหรียญตัวนี้เป็น “Utility Token” คือเหรียญที่ตั้งใจให้มีช่องทางนำไปใช้แลกเปลี่ยนสินค้าได้จริงมากกว่าการเก็งกำไร
2. ในการเปิดตัวเหรียญครั้งนี้ทาง RS Group ยังคว้า แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ศิลปินระดับโลกชื่อดัง เข้ามาร่วมงานในฐานะ Platform Partner โดยจะทำหน้าที่เป็นเสมือนตัวแทนหรือสื่อกลางในการนำเสนอแพลตฟอร์ม Popcoin ให้แก่คนรุ่นใหม่
.
3. จุดประสงค์ของ Popcoin ดูได้จากสโลแกนของเหรียญคือ “Popcoin: Join to Earn” เหรียญนี้จะมาดิสรัปต์วงการ “Entertainmerce” โดยเข้ามาเป็นตัวเชื่อมของ “วงการบันเทิง” และ “การตลาด”
.
พร้อมกับเข้ามาเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนและทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม ส่งผลให้ธุรกิจคอมเมิร์ซและธุรกิจสื่อ-บันเทิงเชื่อมกันได้อย่างไร้รอยต่อ และนับเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
4. โดยผู้ที่จะได้ครอบครองเหรียญ จะได้เหรียญมาจากการรับชมโฆษณา เข้าร่วมงานอีเวนต์ การตอบคำถาม เล่นเกม ฯลฯ ตามแต่จะมีการสร้างกิจกรรมขึ้นมาร่วมกับสปอนเซอร์ ที่แพลตฟอร์ม Popcoin ที่ชื่อว่า Popsters
.
5. วิธีนี้จะเข้ามาช่วยวงการการตลาดในปัจจุบัน ที่คนมักจะไม่สนใจโฆษณา ไม่สนใจที่จะมีส่วนร่วมกับแบรนด์ แต่เมื่อมี Popcoin มาเป็นผลตอบแทนก็จะเป็นแรงจูงใจใหม่ให้ผู้บริโภคสนใจโฆษณา หรือมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น
6. แล้วผู้บริโภคจะอยากได้ Popcoin ไปทำไม?
เพราะ Popcoin จะร่วมกับพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อให้คนนำเหรียญไปใช้แลกสินค้าได้จริง บางแคมเปญอาจจะมีการปล่อยสินค้าพิเศษที่ต้องใช้ Popcoin แลกเท่านั้น เช่น ของสะสม, การ์ดของไอดอลที่หายาก ๆ
.
รวมถึงของในอนาคตอย่าง เมตาเวิร์ส และถ้ามันบูมเมื่อไหร่ เหรียญนี้ก็อาจจะนำไปใช้ซื้อสินค้าในโลกดิจิทัลได้เลย
.
7. แม้ว่าจุดประสงค์ของเหรียญจะไม่ได้เน้นเก็งกำไร แต่ Popcoin กำลังจะเข้าไปเทรดบนกระดานของ Bitkub ด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้เทรดแลกเหรียญ Popcoin กับเงินคริปโตอื่น ๆ หรือแลกออกมาเป็นเงินบาทได้
.
8. นอกจากนี้ ยังมีระบบให้ Stake เหรียญ ให้เจ้าของเหรียญนำเหรียญเข้ามาออมในระบบเพื่อรอรับ Reward (ก็คล้าย ๆ กับฝากเงินในธนาคารแล้วได้ดอกเบี้ยเลยครับ) อัตรา Reward ที่จะได้ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะซัพพลาย-ดีมานด์ของเหรียญขณะนั้น
.
9. ด้านการควบคุมจำนวนเหรียญ Popcoin มีการระบุไว้ใน Whitepaper ว่าภายใน 4 ปีแรกจะมีการผลิตเหรียญไม่เกิน 10,000 ล้านเหรียญ และในปีต่อ ๆ ไปจะมีการปรับจำนวนเหรียญขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ เพื่อไม่ให้จำนวนเหรียญในระบบ “เฟ้อ” เกินไป จะต้องเพิ่มจำนวนตามปริมาณการนำไปใช้จริง
10. การปล่อยเหรียญครั้งแรกหรือ ICO ไม่ได้ขายให้กับประชาชนทั่วไป แต่จะเน้นไปที่ B2B ได้แก่
– 65% ให้กับแบรนด์ที่ต้องการซื้อไปทำแคมเปญ
– 15% เก็บไว้ทำการตลาดให้กับตัวเหรียญเอง
– 15% ให้กับพันธมิตรธุรกิจ
– 5% ให้กับทีมผู้ก่อตั้ง
11. เหรียญ Popcoin มีการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการต่อสาธารณะ ไปตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยให้สิทธิผู้ที่สมัครเข้ามาในแพลตฟอร์ม สามารถร่วมแคมเปญ “Popcoin Airdrop” รับเหรียญฟรี 100 เหรียญ และเมื่อชวนเพื่อนมาสมัครจะได้รับเพิ่มอีก 25 เหรียญต่อเพื่อน 1 คน
.
แต่ในตอนนี้ แคมเปญ Popcoin Airdrop จบไปแล้วเมื่อเที่ยงคืนวันที่ 10 ม.ค. 65 ที่ผ่านมานี้เอง
.
.
12. และล่าสุด Popcoin ได้ประกาศรายชื่อพันธมิตรออกมาแล้ว เรียกได้ยาวเป็นหางว่าวเลย มาดูว่าจะมีใครบ้าง
.
– ด้านธุรกิจดนตรีและบันเทิง จะมี
Live Nation, BEC Tero, High Cloud Entertainment, คณะหมอลำเสียงอิสาน, VOM Records, Full Sense, สมาคมการค้าธุรกิจไอดอลหญิง (FITA), RS Music, Coolism, สถานีโทรทัศน์ช่อง 8
– ธุรกิจสื่อ: UNLOCKMEN, Pet Hipster
– ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค: RS Mall, คามู ซี, เวล ยู, ไลฟ์เมต, ไวตาเนเจอร์พลัส
– ธุรกิจอื่นๆ: Carnival แบรนด์สตรีทแฟชั่น, Bhouse Studio โรงเรียนสอนเต้น, บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด, บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน), บริษัท อินดีม กรุ๊ป จำกัด, บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน), บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)
.
.
วงการนี้กำลังน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะครั้งนี้ RS Group ทุ่มสุดตัว Popcoin ต้องเกิด ต้องเปรี้ยง เพราะมันคือการวางแผนไปสู่ Entertainmerce และเราก็มารอดูกันต่อไปครับว่ามันจะเข้ามาเปลี่ยนวงการนี้ยังไง!!!